ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การดำเนินงานของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 13: บรรทัดที่ 13:
กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ บัญญัติถึงการดำเนินงานของสภาเศรษฐกิจและสังคมไว้ ดังนี้  
กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ บัญญัติถึงการดำเนินงานของสภาเศรษฐกิจและสังคมไว้ ดังนี้  


''มาตรา 15'' บัญญัติว่า “การกำหนดกฎต่างๆ ของคณะทำงานต้องได้รับความเห็นชอบและประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกา”
'''''มาตรา 15'''''  บัญญัติว่า “การกำหนดกฎต่างๆ ของคณะทำงานต้องได้รับความเห็นชอบและประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกา”


''มาตรา 17'' บัญญัติว่า “ประธานสภาจะเป็นผู้แจ้งวาระต่างๆ ที่จะพิจารณาแก่สมาชิก”  
'''''มาตรา 17'''''  บัญญัติว่า “ประธานสภาจะเป็นผู้แจ้งวาระต่างๆ ที่จะพิจารณาแก่สมาชิก”  


''มาตรา 20'' บัญญัติว่า “สิทธิในการลงมติ เป็นไปโดยสิทธิของแต่ละบุคคล มิได้อาศัยสิทธิจากตัวแทน”  
'''''มาตรา 20'''''  บัญญัติว่า “สิทธิในการลงมติ เป็นไปโดยสิทธิของแต่ละบุคคล มิได้อาศัยสิทธิจากตัวแทน”  


''มาตรา 21'' บัญญัติว่า “ความเห็นและรายงานต่างๆ ของคณะกรรมการสภาจะเสนอต่อ นายกรัฐมนตรีโดยทางคณะทำงานเป็นผู้ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยคณะรัฐบาล”  
'''''มาตรา 21'''''  บัญญัติว่า “ความเห็นและรายงานต่างๆ ของคณะกรรมการสภาจะเสนอต่อ นายกรัฐมนตรีโดยทางคณะทำงานเป็นผู้ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยคณะรัฐบาล”  


''มาตรา 22'' บัญญัติว่า “สมาชิกสภาจะได้รับรายได้ไม่สูงกว่า 1 ใน 3 ของรายได้ของสมาชิก รัฐสภา รวมทั้งยังมีรายได้จากการเข้าร่วมประชุม ซึ่งกำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา”  
'''''มาตรา 22'''''  บัญญัติว่า “สมาชิกสภาจะได้รับรายได้ไม่สูงกว่า 1 ใน 3 ของรายได้ของสมาชิก รัฐสภา รวมทั้งยังมีรายได้จากการเข้าร่วมประชุม ซึ่งกำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา”  


''มาตรา 23'' บัญญัติว่า “ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสภา จะถูกกำหนดอยู่ในงบประมาณของนายกรัฐมนตรี โดยแยกเป็นส่วนพิเศษ งบประมาณดังกล่าวสภาเป็นผู้จัดการดำเนินการเอง โดยไม่อยู่ในข่ายต้องมีการควบคุมตามกฎหมาย ลงวันที่ 10 สิงหาคม 1922 แต่จะมีกรมบัญชีกลางเป็นผู้ดูแล”  
'''''มาตรา 23'''''  บัญญัติว่า “ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสภา จะถูกกำหนดอยู่ในงบประมาณของนายกรัฐมนตรี โดยแยกเป็นส่วนพิเศษ งบประมาณดังกล่าวสภาเป็นผู้จัดการดำเนินการเอง โดยไม่อยู่ในข่ายต้องมีการควบคุมตามกฎหมาย ลงวันที่ 10 สิงหาคม 1922 แต่จะมีกรมบัญชีกลางเป็นผู้ดูแล”  


''มาตรา 23 ทวิ'' บัญญัติว่า “การดำเนินการด้านการบริหารของสภาอยู่ใต้อำนาจของประธานสภา โดยมีสมาชิกอื่นๆ เป็นผู้สนับสนุน การตัดสินใจ ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดการด้านบุคลากรทำไปในนามคณะทำงาน โดยได้รับความเห็นชอบจากเลขาธิการ และประธานสภา”
'''''มาตรา 23 ทวิ'''''  บัญญัติว่า “การดำเนินการด้านการบริหารของสภาอยู่ใต้อำนาจของประธานสภา โดยมีสมาชิกอื่นๆ เป็นผู้สนับสนุน การตัดสินใจ ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดการด้านบุคลากรทำไปในนามคณะทำงาน โดยได้รับความเห็นชอบจากเลขาธิการ และประธานสภา”


''มาตรา 24'' บัญญัติว่า “เลขาธิการสภา ได้รับการแต่งตั้งโดย พระราชกฤษฎีกาและอยู่ ใต้อำนาจของประธานสภามีหน้าที่ในการดูแลการดำเนินงานของสภา”
'''''มาตรา 24'''''  บัญญัติว่า “เลขาธิการสภา ได้รับการแต่งตั้งโดย พระราชกฤษฎีกาและอยู่ ใต้อำนาจของประธานสภามีหน้าที่ในการดูแลการดำเนินงานของสภา”


''มาตรา 25'' บัญญัติว่า “รัฐบาลเป็นผู้พิจารณาในการมอบหมายงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้สภาไปดำเนินการ”  
'''''มาตรา 25'''''  บัญญัติว่า “รัฐบาลเป็นผู้พิจารณาในการมอบหมายงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้สภาไปดำเนินการ”  


นอกจากนี้ รัฐบัญญัติของประเทศฝรั่งเศส ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 1982 มาตรา 1 วรรค 2 บัญญัติว่า “รัฐบาลต้องร่วมมือกับสภาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มต่างๆ ทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนภาค เพื่อการร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมแห่งชาติ ภายใต้เงื่อนไขที่ รัฐบัญญัตินี้กำหนด”  
นอกจากนี้ รัฐบัญญัติของประเทศฝรั่งเศส ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 1982 มาตรา 1 วรรค 2 บัญญัติว่า “รัฐบาลต้องร่วมมือกับสภาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มต่างๆ ทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนภาค เพื่อการร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมแห่งชาติ ภายใต้เงื่อนไขที่ รัฐบัญญัตินี้กำหนด”  
บรรทัดที่ 66: บรรทัดที่ 66:
นอกจากนั้น ในประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศสยังมีสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ในระดับภูมิภาคด้วย แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสภาที่ปรึกษาฯ ในระดับชาติ เพียงแต่สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ในระดับภูมิภาค จะมาประชุมร่วมกันในสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ และหากสภาที่ปรึกษาฯ ในระดับชาติ ทำการศึกษาเรื่องใดที่เกี่ยวกับหรือใกล้เคียงกับเรื่องที่สภาที่ปรึกษาฯ ในระดับภูมิภาคดำเนินการแล้ว ก็จะขอข้อมูลมาใช้ในการพิจารณาศึกษาของสภาที่ปรึกษาฯ ในระดับชาติ  
นอกจากนั้น ในประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศสยังมีสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ในระดับภูมิภาคด้วย แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสภาที่ปรึกษาฯ ในระดับชาติ เพียงแต่สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ในระดับภูมิภาค จะมาประชุมร่วมกันในสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ และหากสภาที่ปรึกษาฯ ในระดับชาติ ทำการศึกษาเรื่องใดที่เกี่ยวกับหรือใกล้เคียงกับเรื่องที่สภาที่ปรึกษาฯ ในระดับภูมิภาคดำเนินการแล้ว ก็จะขอข้อมูลมาใช้ในการพิจารณาศึกษาของสภาที่ปรึกษาฯ ในระดับชาติ  
== ที่มา ==
== ที่มา ==
   
   

รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:08, 15 ธันวาคม 2553

บทความนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยโดยผู้ืทรงคุณวุฒิ

ผู้เรียบเรียง วัชรา ไชยสาร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ พรรณราย ขันธกิจ


การดำเนินงานของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม

กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ บัญญัติถึงการดำเนินงานของสภาเศรษฐกิจและสังคมไว้ ดังนี้

มาตรา 15 บัญญัติว่า “การกำหนดกฎต่างๆ ของคณะทำงานต้องได้รับความเห็นชอบและประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกา”

มาตรา 17 บัญญัติว่า “ประธานสภาจะเป็นผู้แจ้งวาระต่างๆ ที่จะพิจารณาแก่สมาชิก”

มาตรา 20 บัญญัติว่า “สิทธิในการลงมติ เป็นไปโดยสิทธิของแต่ละบุคคล มิได้อาศัยสิทธิจากตัวแทน”

มาตรา 21 บัญญัติว่า “ความเห็นและรายงานต่างๆ ของคณะกรรมการสภาจะเสนอต่อ นายกรัฐมนตรีโดยทางคณะทำงานเป็นผู้ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยคณะรัฐบาล”

มาตรา 22 บัญญัติว่า “สมาชิกสภาจะได้รับรายได้ไม่สูงกว่า 1 ใน 3 ของรายได้ของสมาชิก รัฐสภา รวมทั้งยังมีรายได้จากการเข้าร่วมประชุม ซึ่งกำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา”

มาตรา 23 บัญญัติว่า “ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสภา จะถูกกำหนดอยู่ในงบประมาณของนายกรัฐมนตรี โดยแยกเป็นส่วนพิเศษ งบประมาณดังกล่าวสภาเป็นผู้จัดการดำเนินการเอง โดยไม่อยู่ในข่ายต้องมีการควบคุมตามกฎหมาย ลงวันที่ 10 สิงหาคม 1922 แต่จะมีกรมบัญชีกลางเป็นผู้ดูแล”

มาตรา 23 ทวิ บัญญัติว่า “การดำเนินการด้านการบริหารของสภาอยู่ใต้อำนาจของประธานสภา โดยมีสมาชิกอื่นๆ เป็นผู้สนับสนุน การตัดสินใจ ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดการด้านบุคลากรทำไปในนามคณะทำงาน โดยได้รับความเห็นชอบจากเลขาธิการ และประธานสภา”

มาตรา 24 บัญญัติว่า “เลขาธิการสภา ได้รับการแต่งตั้งโดย พระราชกฤษฎีกาและอยู่ ใต้อำนาจของประธานสภามีหน้าที่ในการดูแลการดำเนินงานของสภา”

มาตรา 25 บัญญัติว่า “รัฐบาลเป็นผู้พิจารณาในการมอบหมายงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้สภาไปดำเนินการ”

นอกจากนี้ รัฐบัญญัติของประเทศฝรั่งเศส ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 1982 มาตรา 1 วรรค 2 บัญญัติว่า “รัฐบาลต้องร่วมมือกับสภาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มต่างๆ ทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนภาค เพื่อการร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมแห่งชาติ ภายใต้เงื่อนไขที่ รัฐบัญญัตินี้กำหนด”

จากบทบัญญัติดังกล่าว สรุปได้ว่า การดำเนินการของสภาเศรษฐกิจและสังคม อยู่ภายใต้การควบคุมของประธานสภา โดยประธานสภามีหน้าที่ในการเรียกประชุม กำหนดหัวข้อในการประชุมและเป็นประธานในการประชุม ประธานสภาถือว่ามีหน้าที่เสมือนเป็นตัวแทนการใช้อำนาจสาธารณะ นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการเผยแพร่และทำความเข้าใจ ต่อบุคคลภายนอกถึงหน้าที่ของสภาด้วย

ดังนั้น สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมของฝรั่งเศสเป็นองค์กรเพื่อประโยชน์ในการมีส่วนร่วมในการให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจของผู้มีอำนาจต่อไป และมีบทบาทสำคัญในกระบวนการวางแผนหรือการกำหนดนโยบายและแผนทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ด้วยเหตุที่องค์ประกอบของสภาประกอบด้วยสมาชิกที่มาจากหลายสาขาอาชีพและกิจกรรม จึงทำให้บทบาทในการดำเนินงานของสภาค่อนข้างมีความสำคัญ สมาชิกสามารถแสดงหรือเสนอความคิดเห็นของตน และดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์สาธารณะได้อย่างอิสระ ซึ่ง ความเห็นที่ได้รับการเสนอจากสภานี้ ปกติรัฐบาลจะนำไปปฏิบัติประมาณ 50% ซึ่งจะต้องมองในระยะยาว และหากมีการนำความเห็นของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมไปใช้ในระยะยาว รัฐบาลก็มักจะไม่ได้กล่าวอ้างว่าเป็นความเห็นของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแต่อย่างใด ทั้งนี้ สมาชิก สภาที่ปรึกษาฯ ได้ค่าตอบแทนเป็นเบี้ยประชุม ซึ่งสมาชิกส่วนมากจะบริจาคเงินเบี้ยประชุมให้กับ องค์กรหรือหน่วยงานที่ตัวเองเป็นตัวแทน (ยกเว้นสมาชิกซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ)

กระบวนการและขั้นตอนทำงานของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม

สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมจะเลือกคณะทำงาน อันประกอบด้วย ประธานสภากับสมาชิกอีก 18 คน โดยมีเลขาธิการของคณะทำงานซึ่งมาจากการลงคะแนนของสมาชิก ประธานสภามีสิทธิในการเรียกสมาชิกแต่ละกลุ่มเข้าร่วมในการประชุมได้ ทำหน้าที่คล้าย กับคณะทำงานกิจการสภาที่ปรึกษาฯ ของประเทศไทย ทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองภารกิจต่าง ๆ ของสภา ที่ปรึกษาฯ

สภาที่ปรึกษาฯ ประกอบด้วยคณะทำงาน 9 คณะ ทำหน้าที่ศึกษาปัญหาเฉพาะเรื่อง เช่น กิจการสังคม แรงงาน การเกษตร หรือการเงินการคลัง เป็นต้น แต่ละคณะประกอบด้วยสมาชิก สภาที่ปรึกษาฯ จำนวน 27 - 29 คนซึ่งเป็นตัวแทนจากทุกกลุ่ม (18 กลุ่ม) ซึ่งจะมาเลือกประธาน (ประธานคณะทำงานจะมีห้องทำงานและมีฝ่ายเลขานุการเป็นของตัวเอง) และสมาชิกผู้รับผิดชอบ (Rapporteur) ในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ในคณะทำงานอาจประกอบด้วยกลุ่มทำงานย่อยๆ หลายกลุ่ม และนอกจากคณะทำงาน 9 คณะ แล้ว ยังมีอีก 2 คณะ ที่ไม่ได้เรียกว่าคณะทำงาน คือ กิจการยุโรป และกิจการสตรี

ในการจัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี เมื่อคณะทำงานได้เห็นชอบ รายงานของสมาชิกผู้รับผิดชอบ (Rapporteur) แล้ว ก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาที่ปรึกษาฯ โดยสมาชิกผู้รับผิดชอบ (Rapporteur) จะรายงานผลที่คณะทำงานศึกษาในเรื่องดังกล่าว ต่อที่ประชุมสภาที่ปรึกษาฯ หลังจากนั้นรัฐมนตรีหรือตัวแทนจากรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับร่างกฎหมายที่ ขอคำปรึกษาต่อสภาที่ปรึกษาฯ อาจแถลงหรือชี้แจงเหตุผลในการร่างกฎหมายต่อที่ประชุม สภาที่ปรึกษาฯ ต่อจากนั้นผู้แทนกลุ่ม (18 กลุ่ม) ก็จะแสดงความคิดเห็น แล้วสมาชิกผู้รับผิดชอบ (Rapporteur) และคณะทำงานที่นำเสนอรายงาน ก็จะนำไปปรับปรุงแก้ไข แล้วนำเสนอต่อที่ประชุมสภาที่ปรึกษาฯ และต่อคณะรัฐมนตรีหรือรัฐสภาต่อไป

ทั้งนี้ ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯ และการดำเนินการเกี่ยวกับความเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวจะต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาด้วย

สำนักงานเลขาธิการของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม

ในการประชุมสภาที่ปรึกษาฯ ครั้งแรก ให้สมาชิกเลือก ประธานสภาที่ปรึกษาฯ และสมาชิกอื่นจำนวน 18 คน พร้อมรองประธานสภา 4 คน เพื่อทำหน้าบริหารกิจการสภาที่ปรึกษาฯ เลขาธิการสภาฯ ได้รับเลือกโดยสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ เป็นหัวหน้ารับผิดชอบในงาน ธุรการของสภาที่ปรึกษาฯ สามารถเข้าร่วมการประชุมสภาที่ปรึกษาฯ และคณะทำงานกิจการสภา ที่ปรึกษาฯ แต่ไม่มีสิทธิในการออกเสียงเพื่อตัดสินใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง วาระในการดำรงตำแหน่งของเลขาธิการสภาไม่มีความเกี่ยวพันกับวาระการดำรงตำแหน่งของสภาที่ปรึกษาฯ ดังนั้น แม้ว่าสภาจะหมดวาระแล้วก็ตาม เลขาธิการสภาที่ปรึกษาฯ อาจเป็นคนเดิมก็ได้

ทั้งนี้ เลขาธิการสภามีหน้าที่ดูแลการดำเนินงานของสภา คือ มีหน้าที่ตระเตรียมและดำเนินการให้เป็นไปตามการตัดสินใจของคณะทำงาน และจัดการให้เป็นไปตามมติของสภา ต้องทำงานร่วมกับประธานสภาและสมาชิก รวมทั้งต้องประสานงานกับคณะรัฐบาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และหน่วยงานอื่นๆ อีกด้วย ในส่วนงบประมาณในการดำเนินงาน ถูกกำหนดไว้ในงบประมาณของนายกรัฐมนตรี

สำหรับเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานเลขาธิการ ในปีงบประมาณ 2549 เป็นข้าราชการจำนวน 159 คน

งบประมาณของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม

ในปีงบประมาณ 2549 สภาที่ปรึกษาฯ ได้รับงบประมาณ 33 ล้านยูโร ซึ่งเป็นงบประมาณเพียงร้อยละ 3 ของงบประมาณของรัฐสภา โดยงบประมาณ 1 ใน 3 ของ 33 ล้านยูโร เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับอาคารสถานที่ 1 ใน 3 ของ 33 ล้านยูโร เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าตอบแทน และอีก 1 ใน 3 ของ 33 ล้านยูโร เป็นค่าตอบแทนบุคลากร

เครือข่ายของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม

นอกจากนั้น ในประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศสยังมีสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ในระดับภูมิภาคด้วย แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสภาที่ปรึกษาฯ ในระดับชาติ เพียงแต่สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ในระดับภูมิภาค จะมาประชุมร่วมกันในสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ และหากสภาที่ปรึกษาฯ ในระดับชาติ ทำการศึกษาเรื่องใดที่เกี่ยวกับหรือใกล้เคียงกับเรื่องที่สภาที่ปรึกษาฯ ในระดับภูมิภาคดำเนินการแล้ว ก็จะขอข้อมูลมาใช้ในการพิจารณาศึกษาของสภาที่ปรึกษาฯ ในระดับชาติ

ที่มา

พรรณราย ขันธกิจ. บทบาทและหน้าที่ขององค์กรสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า, 2548.

วัชรา ไชยสาร. สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส และสมาคมที่ปรึกษาเศรษฐกิจ และสังคม และสถาบันในลักษณะเดียวกัน (AICESIS) พร้อมด้วยองค์กรสภาที่ปรึกษา ในประเทศ เบลเยี่ยม. วารสารสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม – กันยายน 2549.

สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. รายงานการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้านวิเทศสัมพันธ์และศึกษาดูงาน ณ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 11-20 พฤษภาคม 2549.

ดูเพิ่มเติม

http://www.nesac.go.th/document/show11.php?did=07080001

http://www.conseil-economique-et-social.fr/

http://www.eesc.europa.eu/

อ้างอิง