ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 2 วันที่ 7 พฤศจิกายน 2480"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
สร้างหน้าใหม่: '''ผู้เรียบเรียง''' ชาย ไชยชิต '''ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ''' ...
 
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 5: บรรทัดที่ 5:
----
----


'''การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ วันที่ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐'''
'''การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 2 วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480'''


การเลือกตั้งครั้งที่สองนี้เป็นการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต โดยประชาชนเป็นผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้แทนราษฎรในเขตของตนเองโดยตรง มีเกณฑ์การคำนวณสัดส่วนผู้แทนราษฎรในแต่ละเขตคือ ราษฎรจำนวนหนึ่งแสนคนต่อผู้แทนหนึ่งคน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศในขณะนั้นทำให้ได้ผู้แทนราษฎรทั้งสิ้นจำนวน ๙๑ คน การเลือกตั้งครั้งนี้จัดให้มีขึ้นเนื่องจากผู้แทนราษฎรชุดแรกได้พ้นจากตำแหน่งไปตามวาระ  
การเลือกตั้งครั้งที่สองนี้เป็นการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต โดยประชาชนเป็นผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้แทนราษฎรในเขตของตนเองโดยตรง มีเกณฑ์การคำนวณสัดส่วนผู้แทนราษฎรในแต่ละเขตคือ ราษฎรจำนวนหนึ่งแสนคนต่อผู้แทนหนึ่งคน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศในขณะนั้นทำให้ได้ผู้แทนราษฎรทั้งสิ้นจำนวน 91 คน การเลือกตั้งครั้งนี้จัดให้มีขึ้นเนื่องจากผู้แทนราษฎรชุดแรกได้พ้นจากตำแหน่งไปตามวาระ  


ผลการเลือกตั้งพบว่า จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด ,๑๒๓,๒๓๙ คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน ,๔๖๒,๕๓๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๐.๒๒ จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดคือ จังหวัดนครนายก คิดเป็นร้อยละ ๘๐.๘๐ และจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยที่สุดคือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน คิดเป็นร้อยละ ๒๒.๒๔ การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. ๒๔๗๕ ซึ่งกำหนดให้ฝ่ายนิติบัญญัติมีระบบสภาเดียว และพรรคการเมืองที่มีบทบาทในการเลือกตั้งยังคงมีเพียงพรรคเดียวคือ พรรคคณะราษฎร
ผลการเลือกตั้งพบว่า จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 6,123,239 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 2,462,535 คน คิดเป็นร้อยละ 40.22 จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดคือ จังหวัดนครนายก คิดเป็นร้อยละ ๘๐.๘๐ และจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยที่สุดคือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน คิดเป็นร้อยละ 22.24 การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2475 ซึ่งกำหนดให้ฝ่ายนิติบัญญัติมีระบบสภาเดียว และพรรคการเมืองที่มีบทบาทในการเลือกตั้งยังคงมีเพียงพรรคเดียวคือ พรรคคณะราษฎร


----
----
'''ที่มา'''
'''ที่มา'''
บุญทัน  ดอกไธสง, การเปลี่ยนแปลงทางการบริหารและการเมืองไทย, กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2520
บุญทัน  ดอกไธสง, '''การเปลี่ยนแปลงทางการบริหารและการเมืองไทย''', กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2520


ฝ่ายพัฒนาการเมืองและการปกครอง สำนักนโยบายและแผนมหาดไทย, อนุสารการเมือง, มีนาคม 2522
ฝ่ายพัฒนาการเมืองและการปกครอง สำนักนโยบายและแผนมหาดไทย, '''อนุสารการเมือง''', มีนาคม 2522


[[หมวดหมู่:การเลือกตั้ง]]
[[หมวดหมู่:การเลือกตั้ง]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:30, 29 มิถุนายน 2553

ผู้เรียบเรียง ชาย ไชยชิต

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 2 วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480

การเลือกตั้งครั้งที่สองนี้เป็นการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต โดยประชาชนเป็นผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้แทนราษฎรในเขตของตนเองโดยตรง มีเกณฑ์การคำนวณสัดส่วนผู้แทนราษฎรในแต่ละเขตคือ ราษฎรจำนวนหนึ่งแสนคนต่อผู้แทนหนึ่งคน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศในขณะนั้นทำให้ได้ผู้แทนราษฎรทั้งสิ้นจำนวน 91 คน การเลือกตั้งครั้งนี้จัดให้มีขึ้นเนื่องจากผู้แทนราษฎรชุดแรกได้พ้นจากตำแหน่งไปตามวาระ

ผลการเลือกตั้งพบว่า จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 6,123,239 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 2,462,535 คน คิดเป็นร้อยละ 40.22 จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดคือ จังหวัดนครนายก คิดเป็นร้อยละ ๘๐.๘๐ และจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยที่สุดคือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน คิดเป็นร้อยละ 22.24 การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2475 ซึ่งกำหนดให้ฝ่ายนิติบัญญัติมีระบบสภาเดียว และพรรคการเมืองที่มีบทบาทในการเลือกตั้งยังคงมีเพียงพรรคเดียวคือ พรรคคณะราษฎร



ที่มา

บุญทัน ดอกไธสง, การเปลี่ยนแปลงทางการบริหารและการเมืองไทย, กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2520

ฝ่ายพัฒนาการเมืองและการปกครอง สำนักนโยบายและแผนมหาดไทย, อนุสารการเมือง, มีนาคม 2522