ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Suksan (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''ผู้เรียบเรียง''' : อมรรัตน์ เจือจาน '''ผู้ทรงคุณวุฒ...'
 
Suksan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 10: บรรทัดที่ 10:
สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี และทรงเป็นพระโสทรในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติเมื่อวันพุธ เดือนยี่ แรม 4 ค่ำ ปีมะแม เอกศก จุลศักราช 1221 ตรงกับวันที่ 11 มกราคม พุทธศักราช 2402 ณ พระตำหนักที่ประทับเดิมของสมเด็จพระศรีสลาไลย ซึ่งเป็นที่ตั้งหมู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ทรงมีพระนามเดิมว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์” มีพระเชษฐาและพระเชษฐภคินีร่วมพระราชบิดาและพระราชมารดา 4 พระองค์ ดังนี้  
สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี และทรงเป็นพระโสทรในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติเมื่อวันพุธ เดือนยี่ แรม 4 ค่ำ ปีมะแม เอกศก จุลศักราช 1221 ตรงกับวันที่ 11 มกราคม พุทธศักราช 2402 ณ พระตำหนักที่ประทับเดิมของสมเด็จพระศรีสลาไลย ซึ่งเป็นที่ตั้งหมู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ทรงมีพระนามเดิมว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์” มีพระเชษฐาและพระเชษฐภคินีร่วมพระราชบิดาและพระราชมารดา 4 พระองค์ ดังนี้  
   
   
1.  สมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์ (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)  
1.  สมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์ (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)  


2.  สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงจันทรมณฑลโสภณภควดี (สมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงวิสุทธิกษัตริย์)
2.  สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงจันทรมณฑลโสภณภควดี (สมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงวิสุทธิกษัตริย์)
   
   
3.  สมเด็จเจ้าฟ้าชายจาตุรนต์รัศมี (สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระจักรพรรดิพงศ์)
3.  สมเด็จเจ้าฟ้าชายจาตุรนต์รัศมี (สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระจักรพรรดิพงศ์)
   
   
4.  สมเด็จเจ้าฟ้าชายภาณุรังษีสว่างวงศ์ (จอมพล สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช)  
4.  สมเด็จเจ้าฟ้าชายภาณุรังษีสว่างวงศ์ (จอมพล สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช)  


สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช จึงเป็นพระราชโอรสลำดับสุดท้ายในสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี และอยู่ในลำดับที่ 45  ในบรรดาพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้งหมด 82 พระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช จึงเป็นพระราชโอรสลำดับสุดท้ายในสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี และอยู่ในลำดับที่ 45  ในบรรดาพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้งหมด 82 พระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:51, 6 ตุลาคม 2557

ผู้เรียบเรียง : อมรรัตน์ เจือจาน

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : นายจเร พันธุ์เปรื่อง


ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อันเป็นยุคสมัยที่สยามประเทศจะต้องมีการปฏิรูปบ้านเมืองในหลายๆ ด้านพร้อมกัน เพื่อปรับปรุงบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าเช่นเดียวกับนานาอารยประเทศ บุคคลผู้มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงและพัฒนาแผ่นดินสยามในยุคนั้นพระองค์หนึ่ง ก็คือ สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงเป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญยิ่ง ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถและมีพระอิจฉริยภาพหลากหลายด้าน กอปรกับการที่ทรงประกอบพระราชกิจในด้านต่างๆ จึงเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยในการปฏิบัติราชการแทนพระองค์ โดยทรงงานถวายพระเจ้าอยู่หัวถึง 3 รัชกาล ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 7 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกิจการทหาร พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งที่สำคัญๆ อาทิ เสนาบดีว่าการกระทรวงยุทธนาธิการ เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารเรือไทย นอกจากนี้ ทรงเป็นอธิบดีกรมไปรษณีย์เป็นพระองค์แรกของประเทศไทย โดยทรงปรับปรุงกิจการไปรษณีย์ของไทยให้มีความก้าวหน้าและทันสมัย ด้วยพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อกิจการไปรษณีย์ของประเทศไทย พระองค์จึงได้รับการสดุดีพระเกียรติคุณเป็น “พระบิดาแห่งการไปรษณีย์ไทย”

พระประวัติ

สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี และทรงเป็นพระโสทรในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติเมื่อวันพุธ เดือนยี่ แรม 4 ค่ำ ปีมะแม เอกศก จุลศักราช 1221 ตรงกับวันที่ 11 มกราคม พุทธศักราช 2402 ณ พระตำหนักที่ประทับเดิมของสมเด็จพระศรีสลาไลย ซึ่งเป็นที่ตั้งหมู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ทรงมีพระนามเดิมว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์” มีพระเชษฐาและพระเชษฐภคินีร่วมพระราชบิดาและพระราชมารดา 4 พระองค์ ดังนี้

1. สมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์ (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)

2. สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงจันทรมณฑลโสภณภควดี (สมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงวิสุทธิกษัตริย์)

3. สมเด็จเจ้าฟ้าชายจาตุรนต์รัศมี (สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระจักรพรรดิพงศ์)

4. สมเด็จเจ้าฟ้าชายภาณุรังษีสว่างวงศ์ (จอมพล สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช)

สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช จึงเป็นพระราชโอรสลำดับสุดท้ายในสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี และอยู่ในลำดับที่ 45 ในบรรดาพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้งหมด 82 พระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

การศึกษาและการับราชการ

เมื่อปี พ.ศ. 2409 พระองค์ทรงเริ่มศึกษาเล่าเรียนหนังสือเบื้องต้นจากสำนักครูผู้หญิง ต่อมาในปี พ.ศ. 2414 ทรงศึกษาหนังสือขอม ภาษาบาลี จากสำนักพระยาปริยัติธาดา จากนั้นในปี พ.ศ. 2515 ทรงเล่าเรียนวิชาทหารในสำนักกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ และในปี พ.ศ. 2516 ทรงศึกษาภาษาอังกฤษในสำนักมิสเตอร์ฟรานซิส ยอร์ช แพตเตอร์สัน แห่งโรงเรียนทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ นอกจากนี้ทรงศึกษาแบบอย่างราชการ แบบธรรมเนียม พระราชประเพณีจากสมเด็จพระเจ้า บรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์ เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ผู้ทรงเป็นที่ปรึกษาราชการในพระองค์ จึงทำให้ทรงพระปรีชาสามารถรอบรู้และมีพระอัจฉริยภาพในด้างต่างๆ ทรงประกอบพระราชกิจจนได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้เลื่อนตำแหน่งชั้นยศทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายพลเรือนสูงขึ้นเป็นลำดับ

สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงรับราชการในตำแหน่งต่างๆ ทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายพลเรือน โดยพระองค์ทรงมีตำแหน่งที่สำคัญๆ หลายตำแหน่ง ดังนี้

- สมัยรัชกาลที่ 5 ทรงได้รับตำแหน่งราชองครักษ์ เสนาบดีกระทรวงยุทธนาธิการ เสนาบดีกระทรวงกลาโหม อธิบดีกรมไปรษณีย์และโทรเลขพระองค์แรก ราชทูตพิเศษเสด็จไปประเทศญี่ปุ่น และเสด็จไปยุโรป

- สมัยรัชกาลที่ 6 ทรงได้รับตำแหน่งจอมพลทหารบก จอมพลทหารเรือ ราชองครักษ์ และจเรทหารทั่วไป

- สมัยรัชกาลที่ 7 ทรงดำรงตำแหน่งอภิรัฐมนตรี

สมเด็จเจ้าฟ้า ภาณุพันธุวงศ์วรเดช จึงเป็นผู้มีบทบาทที่สำคัญต่อชาติบ้านเมือง ในฐานะที่เป็นเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ มีตำแหน่งราชการสำคัญๆ ของชาติในสมัยนั้น จึงได้รับพระสมัญญาว่า “ทรงเป็นหลักเมืองหรือหลักแผ่นดินของชาติ”

พระกรณียกิจ

ด้านการทหารความมั่นคงของชาติ

สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงมีพระนิยมในกิจการทหารและทรงมีพระปรีชาสามารถในกิจการทหารมาตั้งแต่พระชันษา 17 พรรษา โดยได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ทรงเป็นนายทหารพิเศษในกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ เพื่อทรงศึกษาวิชาการทหารและทรงฝึกการบังคับบัญชาทหารให้ทรงมีประสิทธิภาพเป็นประโยชน์ต่อกิจการทหารสืบต่อไปในภายหน้า นอกจากนี้พระองค์ทรงเคยโดยเสด็จพระบรมเชษฐาธิราชเจ้าและเคยเสด็จเยือนชาติมหาอำนาจทางการทหาร จึงทำให้พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถในการบังคับบัญชาและการปรับปรุงกิจการทหารตามพระราชประสงค์ จึงได้รับการโปรดเกล้าฯ ทรงดำรงตำแหน่งทางการทหารที่สำคัญ อาทิ ผู้บัญชาการกรมยุทธนาธิการ ผู้สำเร็จราชการรักษาพระนครในระหว่างเสด็จ พระราชดำเนินประพาสหัวเมืองในชวา เสนาบดีกระทรวงกลาโหม และทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรืออีกตำแหน่งหนึ่ง

ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน

สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงเป็นพระราชอนุชาที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ให้เป็นผู้ช่วยราชการในกิจการทั้งปวงแทนพระองค์ในอนาคต จากพระปรีชาสามารถ พระอุปนิสัย และพระอัธยาศัย ตลอดจนพระบุคลิกลักษณะของสมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทำให้พระองค์ทรงที่ไว้วางพระราชหฤทัยในการปฏิบัติราชการแทนพระเจ้าอยู่หัวถึง 3 รัชกาล ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 7 ในกรณีที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศหรือกรณีที่ทรงเสด็จประพาสหัวเมืองต่างๆ ตลอดจนกรณีที่ทรงมีพระราชกรณียกิจสำคัญ อันนับได้ว่า สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงปฏิบัติหน้าที่ด้านการบริหารราชการแผ่นดินแทนองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เป็นอย่างดี

นอกจากภารกิจในด้านการทหารและความมั่นคงแล้ว ทรงเป็นเป็นบุคคลแรกในการจุดประกายกิจการด้านสื่อสารไปรษณีย์ให้เกิดขึ้นในสยามประเทศ ในกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ เมื่อพุทธศักราช 2418 ทรงร่วมกับพระบรมวงศานุวงศ์อีก 10 พระองค์ จัดทำหนังสือพิมพ์รายวันขึ้นฉบับหนึ่ง มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “COURT” (อ่านว่า “คอต”) ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็นภาษาไทยในภายหลังว่า “ข่าวราชการ” เพื่อแจ้งความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับข้อราชการและความเป็นไปในราชสำนัก ข่าวเหตุการณ์บ้านเมืองเฉพาะในหมู่เจ้านายเป็นสำคัญ โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ ณ หอนิเพทพิทยา ในพระบรมมหาราชวัง

หนังสือพิมพ์ “COURT” ได้ออกฉบับแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พุทธศักราช 2418 ในชั้นต้นองค์คณะผู้ดำเนินการตั้งพระทัยจะทูลเกล้าฯ ถวายและแจกกันในหมู่เจ้านาย เป็นจำนวนมากโดยในช่วงแรกนั้น ผู้รับหนังสือต้องไปรับที่สำนักงาน ณ หอนิเพทพิทยา ในพระบรมมหาราชวัง แต่ต่อมาเกิดภาระในการจัดเก็บมากขึ้น จึงโปรดให้มีบุรุษหนังสือ หรือ “โปศตแมน” (postman) เพื่อนำส่งให้สมาชิกในตอนเช้าทุกวัน โดยคิดค่าบอกรับหนังสือปีละ 10 บาท ค่านำส่งปีละ 2 บาท พร้อมกันนั้นทรงจัดพิมพ์ “ตั๋วแสตมป์” เพื่อใช้เป็นค่าบริการส่งหนังสือที่จะจำหน่ายแก่สมาชิกผู้รับหนังสือข่าวราชการ

พระอิสริยยศ

สมัยรัชกาลที่ 4

- เมื่อมีพระราชพิธีสมโภชเดือน ในปี พ.ศ. 2402 ได้รับพระราชทานพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงษ์”

สมัยรัชกาลที่ 5

- พ.ศ. 2413 ทรงเฉลิมพระนามเป็น “สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงษ์”

- พ.ศ. 2424 ทรงเลื่อนพระอิสริยยศเป็น “สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงษ์ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช” และทรงเป็นอธิบดีกรมไปรษณีย์และโทรเลขในปีนั้น

- พ.ศ. 2428 เลื่อนพระอิสริยยศเป็น “สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงษ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช”

สมัยรัชกาลที่ 6

- พ.ศ. 2454 ทรงเฉลิมพระยศเลื่อนขึ้นเป็น “สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงษ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช”

สมัยรัชกาลที่ 7

- พ.ศ. 2468 ทรงเฉลิมพระนามเป็น “สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงษ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช”

ราชตระกูล

สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงเป็นต้นราชสกุล “ภาณุพันธ์ ณ อยุธยา” ทรงมีชายาและหม่อมห้าม รวม 5 คน ได้แก่

1. หม่อมเลียม ศุภสิทธิ์ มีพระธิดา 1 พระองค์

2. หม่อมแม้น บุนนาค (หม่อมห้ามสะใภ้หลวง) มีพระโอรสและพระธิดา 3 พระองค์

3. หม่อมสุ่น ปักษีวงศา มีพระโอรส 1 พระองค์

4. หม่อมลับ จาติกรัตน์ มีพระโอรส 1 พระองค์

5. หม่อมเล็ก ยงใจยุทธ มีพระโอรสและพระธิดา 8 พระองค์แต่พระองค์สุดท้องสิ้นชีพิตักษัยขณะคลอดพร้อมกับหม่อมเล็กในวันประสูติ เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2461

สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เสด็จทิวงคต ในรัชกาลที่ 7 เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2471 ขณะพระชันษา 69 พรรษา

บรรณานุกรม

1. กรมศิลปากร. สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์. ราชสกุลวงศ์. กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและ ประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2554.

2. ธำรงศักดิ์ อายุวัฒนะ. ราชสกุลจักรีวงศ์และราชสกุลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช. กรุงเทพฯ : บรรณกิจ 1991, พิมพ์ครั้งที่ 3. 2544.

3. กัลยา เกื้อตระกูล. ราชสกุลสยาม. กรุงเทพฯ : ห้างหุ้นส่วนจำกัดภาพพิมพ์, พิมพ์ครั้งที่ 2. 2552.

4. บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด. 125 ปี ไปรษณีย์ไทย. กรุงเทพฯ: บริษัทดาวฤกษ์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด. 2551.

5. จอมพล สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช, แหล่งที่มา : http://www.navy.mi.th/newwww/history 150/hispdf.pdf , สืบค้นเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2557.

หนังสือแนะนำให้อ่านต่อ

1. คณะกรรมการจัดพิมพ์หนังสือที่ระลึกและจดหมายเหตุพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช. จดหมายเหตุเรื่อง ทรงตั้งพระบรมวงศานุวงศ์กรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม 2. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2545.

2. ราชบัณฑิตยสภา. เรื่องเฉลิมพระยศเจ้านาย ฉบับมีพระรูป. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, พิมพ์ครั้งที่ 2. 2538.

3. กองทัพเรือ. เรื่องเฉลิมพระยศเจ้านาย เล่ม 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์กรุงเทพ, พิมพ์ครั้งที่ 3. 2538.