ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ผิน ชุณหะวัณ"
สร้างหน้าด้วย " ผู้เรียบเรียง : ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์ ผู้ทรงคุณว..." |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 1: | บรรทัดที่ 1: | ||
ผู้เรียบเรียง : ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์ | ผู้เรียบเรียง : ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์ | ||
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต | ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต | ||
---- | ---- | ||
บรรทัดที่ 8: | บรรทัดที่ 8: | ||
'''ผิน ชุณหะวัณ''' | '''ผิน ชุณหะวัณ''' | ||
''' '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ | ''' '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ หัวหน้าคณะ[[รัฐประหาร]] 8 พฤศจิกายน 2490 เคยดำรงตำแหน่งรอง[[นายกรัฐมนตรี]] [[คณะรัฐมนตรี|รัฐมนตรี]]ว่าการก'''ร'''ะทรวงเกษตร และผู้บัญชาการทหารบก | ||
'''ประวัติ''' | '''ประวัติ''' | ||
บรรทัดที่ 60: | บรรทัดที่ 60: | ||
'''บรรณานุกรม''' | '''บรรณานุกรม''' | ||
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ, '''ประวัติการเมืองไทยสนาม พ.ศ.2475-2500,''' (กรุงเทพฯ : มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 2559). | ชาญวิทย์ เกษตรศิริ, '''ประวัติการเมืองไทยสนาม พ.ศ.2475-2500,''' (กรุงเทพฯ : มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 2559). | ||
ปองพล อดิเรกสาร,'''ทหารชื่อผิน จากพลทหาร...สู่จอมพล,''' (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ประพันธสาส์น, 2552). | ปองพล อดิเรกสาร,'''ทหารชื่อผิน จากพลทหาร...สู่จอมพล,''' (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ประพันธสาส์น, 2552). | ||
ผาสุก พงษ์ไพจิตร, คริส เบเกอร์, '''เศรษฐกิจการเมืองไทยสมัยกรุงเทพฯ,''' (เชียงใหม่ : สำนักพิมพ์ซิลค์เวอร์ม, พิมพ์ครั้งที่สาม, 2546), หน้า 153 - 154. | ผาสุก พงษ์ไพจิตร, คริส เบเกอร์, '''เศรษฐกิจการเมืองไทยสมัยกรุงเทพฯ,''' (เชียงใหม่ : สำนักพิมพ์ซิลค์เวอร์ม, พิมพ์ครั้งที่สาม, 2546), หน้า 153 - 154. | ||
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ''', เข้าถึงจาก http://archives.psd.ku.ac.th/kuout/ p064. html เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559. | มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ''', เข้าถึงจาก [http://archives.psd.ku.ac.th/kuout/ http://archives.psd.ku.ac.th/kuout/] p064. html เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559. | ||
กองทัพบก, '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ''', เข้าถึงจาก http://www.rta.mi.th/command/command15.htm เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559. | กองทัพบก, '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ''', เข้าถึงจาก [http://www.rta.mi.th/command/command15.htm http://www.rta.mi.th/command/command15.htm] เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559. | ||
'''หนังสือแนะนำ''' | '''หนังสือแนะนำ''' | ||
ปองพล อดิเรกสาร.(2552).'''ทหารชื่อผิน จากพลทหาร...สู่จอมพล.'''กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ประพันธสาส์น. | ปองพล อดิเรกสาร.(2552).'''ทหารชื่อผิน จากพลทหาร...สู่จอมพล.'''กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ประพันธสาส์น. | ||
<div>'''อ้างอิง''' <div id="ftn1"> | <div>'''อ้างอิง''' <div id="ftn1"> | ||
[[#_ftnref1|[1]]] กองทัพบก, '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ''', เข้าถึงจาก http://www.rta.mi.th/command/command15.htm เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559. | [[#_ftnref1|[1]]] กองทัพบก, '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ''', เข้าถึงจาก [http://www.rta.mi.th/command/command15.htm http://www.rta.mi.th/command/command15.htm] เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559. | ||
</div> <div id="ftn2"> | </div> <div id="ftn2"> | ||
[[#_ftnref2|[2]]] ปองพล อดิเรกสาร,'''ทหารชื่อผิน จากพลทหาร...สู่จอมพล,''' (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ประพันธสาส์น, 2552), หน้า 17. | [[#_ftnref2|[2]]] ปองพล อดิเรกสาร,'''ทหารชื่อผิน จากพลทหาร...สู่จอมพล,''' (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ประพันธสาส์น, 2552), หน้า 17. | ||
</div> <div id="ftn3"> | </div> <div id="ftn3"> | ||
[[#_ftnref3|[3]]] ปองพล อดิเรกสาร,หน้า 39 | [[#_ftnref3|[3]]] ปองพล อดิเรกสาร,หน้า 39 | ||
บรรทัดที่ 96: | บรรทัดที่ 96: | ||
[11] สุชิน ตันติกุล, หน้า 75. | [11] สุชิน ตันติกุล, หน้า 75. | ||
</div> <div id="ftn12"> | </div> <div id="ftn12"> | ||
[[#_ftnref12|[12]]] ชาญวิทย์ เกษตรศิริ, '''ประวัติการเมืองไทยสนาม พ.ศ.2475-2500,''' (กรุงเทพฯ : มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 2559), หน้า 455. | [[#_ftnref12|[12]]] ชาญวิทย์ เกษตรศิริ, '''ประวัติการเมืองไทยสนาม พ.ศ.2475-2500,''' (กรุงเทพฯ : มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 2559), หน้า 455. | ||
</div> <div id="ftn13"> | </div> <div id="ftn13"> | ||
[[#_ftnref13|[13]]] กองทัพบก, '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ''', , เข้าถึงจาก http://www.rta.mi.th/command/command15.htm เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559. | [[#_ftnref13|[13]]] กองทัพบก, '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ''', , เข้าถึงจาก [http://www.rta.mi.th/command/command15.htm http://www.rta.mi.th/command/command15.htm] เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559. | ||
</div> <div id="ftn14"> | </div> <div id="ftn14"> | ||
[14] ผาสุก พงษ์ไพจิตร, คริส เบเกอร์, '''เศรษฐกิจการเมืองไทยสมัยกรุงเทพฯ,''' (เชียงใหม่ : สำนักพิมพ์ซิลค์เวอร์ม, พิมพ์ครั้งที่สาม, 2546), หน้า 153-154. | [14] ผาสุก พงษ์ไพจิตร, คริส เบเกอร์, '''เศรษฐกิจการเมืองไทยสมัยกรุงเทพฯ,''' (เชียงใหม่ : สำนักพิมพ์ซิลค์เวอร์ม, พิมพ์ครั้งที่สาม, 2546), หน้า 153-154. | ||
</div> <div id="ftn15"> | </div> <div id="ftn15"> | ||
[[#_ftnref15|[15]]] กองทัพบก, '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ''', เข้าถึงจาก http://www.rta.mi.th/command/command15.htm เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559. | [[#_ftnref15|[15]]] กองทัพบก, '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ''', เข้าถึงจาก [http://www.rta.mi.th/command/command15.htm http://www.rta.mi.th/command/command15.htm] เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559. | ||
[[#_ftnref16|[16]]] มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ''', เข้าถึงจาก http://archives.psd.ku.ac.th/kuout/ p064. html เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559. | [[#_ftnref16|[16]]] มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, '''จอมพลผิน ชุณหะวัณ''', เข้าถึงจาก [http://archives.psd.ku.ac.th/kuout/ http://archives.psd.ku.ac.th/kuout/] p064. html เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559. | ||
</div> </div> | </div> </div> | ||
[[Category:บุคคลสำคัญทางการเมือง]] | [[Category:บุคคลสำคัญทางการเมือง]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:35, 13 กรกฎาคม 2561
ผู้เรียบเรียง : ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
ผิน ชุณหะวัณ
จอมพลผิน ชุณหะวัณ หัวหน้าคณะรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน 2490 เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และผู้บัญชาการทหารบก
ประวัติ
จอมพลผิน ชุณหะวัณเกิดที่บางนกแขวก อำเภอบางคณฑี จังหวัดสมุทรสงคราม เริ่มเรียนหนังสือเมื่ออายุ 9 ปีกับอาจารย์ไล้ วัดโพธิ์งาม จังหวัดสมุทรสงคราม และพระสุย วัดใหม่สี่หมื่น อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เมื่ออายุ 11 ปีได้อุปสมบทเป็นสามเณรอยู่ 3 พรรษา แล้วลาอุปสมบทเข้ามาเรียนหนังสือที่วัดมหรรณพารามและวัดบวรนิเวศ[1] อายุ 16 ปีสมัครเข้าเป็นพลทหาร ปีต่อมาคือ พ.ศ.2452 สามารถสอบเข้าโรงเรียนนายสิบ จังหวัดราชบุรี หลักสูตร 2 ปี โดยผลการเรียนสอบได้คะแนนยอดเยี่ยมจึงได้สิทธิเข้าศึกษาต่อโรงเรียนนายร้อยทหารบกเมื่อพ.ศ.2453 ได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการทหารบกเมื่อ พ.ศ.2464[2]
เหตุการณ์สำคัญ
เมื่อสำเร็จการศึกษาในพ.ศ.2459 ผิน ชุณหะวัณได้รับแต่งตั้งเป็นนักเรียนทำการนายร้อยเข้ารับราชการเบื้องต้นเป็นนักเรียนทำการประจำกองร้อยที่ 2 กรมทหารราบที่ 4 ราชบุรี ทำหน้าที่ฝึกทหารใหม่ได้คะแนนเป็นที่ 1 ของกรมทหารราบที่ 4 ถึง 5 ปีติดต่อกัน[3] พ.ศ.2467 ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขุนชำนาญยุทธศาสตร์ ภายหลังจากที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเสนาธิการทหารบกได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำกองพลที่ 4
พ.ศ.2469 เมื่อพลตรีพระองค์เจ้าทศศิริวงศ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 4 เลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพที่ 1โปรดให้ร้อยเอกผินมาเป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการกองทัพที่ 1 แต่อยู่ได้เพียงหนึ่งปี ปัญหาค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเมื่อต้องมาอยู่ในพระนครทำให้ร้อยเอกผินขอย้ายกลับไปทำหน้าที่นายทหารฝ่ายเสนาธิการกองพลที่ 4 เหมือนเดิม[4]
พ.ศ.2470 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายทหารฝ่ายเสนาธิการกองพลที่ 4 ซึ่งขณะนั้นพลตรีพระยาพิไชยสงครามเป็นผู้บัญชาการกองพล เมื่อกองทัพบกสั่งยุบกองพลที่ 4 ในพ.ศ.2471โดยเปลี่ยนแปลงให้เป็นกรมทหารบกประจำจังหวัดราชบุรีและมีคำสั่งให้ผู้บัญชาการกองพลกับฝ่ายเสนาธิการทั้งหมดย้ายไปประจำกองพลที่ 2 ที่มีที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี ในปีถัดมาพันตรีผินได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการกองพลที่ 2 และเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นหลวงชำนาญยุทธศาสตร์[5]
ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 อันเป็นวันที่คณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครอง พันตรีผินได้รับคำสั่งจากพลตรีหม่อมเจ้าทองทีฆายุ ผู้บัญชาการกองพลที่ 2 ให้เข้าไปสังเกตการณ์ในพระนคร โดยเดินทางโดยรถโยกของกรมรถไฟใส่ชุดตรวจการของเจ้าหน้าที่กรมรถไฟ แต่การเข้ามาสืบข่าวในครั้งนี้ได้รับการรายงานจากนายทหารฝ่ายสมุห์บัญชี กองพลที่ 2 ที่เป็นพี่เขยของพันโทหลวงพิบูลสงครามไปถึงแกนนำคณะราษฎรทำให้อีกเจ็ดวันต่อมามีคำสั่งจากกองทัพบกให้ผู้บัญชาการกองพลที่ 2และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองพลซึ่งมีพันตรีผินรวมอยู่ด้วยให้ไปรายงานตัวที่วังปารุสกวันอันเป็นที่ตั้งของคณะราษฎร[6] แต่ผลการสอบสวนพันตรีผินพ้นผิดเพราะเป็นการทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาแต่ก็มีรายชื่ออยู่ในนายทหารที่ฝักใฝ่ในระบบเก่า ทำให้มีคำสั่งให้เข้าศึกษาในโรงเรียนนายทหารชั้นผู้ใหญ่ กรมยุทธศึกษาทหารบก และคณะราษฎรได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาประวัติและพฤติกรรมของนายทหารแต่ละคน เมื่อคณะกรรมการเห็นว่าผู้ใดสมควรไว้วางใจก็มีคำสั่งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้บังคับหน่วยทหารที่ยังว่าง แต่พันตรีผินไม่อยู่ในข่ายนั้นเพราะเคยมีผู้บังคับบัญชาเป็นเจ้าถึง 2 คน[7]
จุดเปลี่ยนของชีวิตพันตรีผินเกิดขึ้นในปีพ.ศ.2476 เมื่อเกิดกบฎบวรเดช พันโทหลวงพิบูลสงครามได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพปราบกบฎ ความต้องการนายทหารทำให้มีคำสั่งให้นายทหารที่อยู่ในโรงเรียนนายทหารชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมปราบกบฎ พันตรีผินได้อาสาเข้าร่วมปราบกบฎ โดยเป็นผู้นำกำลังเข้ายึดที่ทำการอำเภอบางเขน[8] และต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นเสนาธิการกองผสมปราบปรามกบฎ โดยเข้ายึดจังหวัดนครราชสีมาจนถึงอุบลราชธานีคืนจากฝ่ายกบฎ เมื่อการปราบปรามกบฎสำเร็จลง พันตรีผินได้เลื่อนยศเป็นพันโทในตำแหน่งเสนาธิการมณฑล ทหารบกที่ 3 และรักษาการรองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 3
พ.ศ.2478 พันโทผินได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 3 ซึ่งคลอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด เมื่อเกิดสงครามอินโดจีนในพ.ศ.2483 พันเอกผินเลื่อนเป็นรองแม่ทัพอีสาน
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองได้เลื่อนยศเป็นพลตรี และพ.ศ.2485 พลตรีผินได้รับแต่งตั้งเป็นข้าหลวงทหารประจำสหรัฐไทยใหญ่ (สหรัฐไทยเดิม) และในปีถัดมาเลื่อนยศเป็นพลโท ผู้ช่วยแม่ทัพกองทัพพายัพ และข้าหลวงทหารประจำสหรัฐไทยเดิม[9]
ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง มีคำสั่งให้พลโทผินไปประจำกรมเสนาธิการทหารบกในวันที่ 1ตุลาคม พ.ศ.2487 และในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2488 กองทัพบกมีคำสั่งให้พลโทผินออกจากราชการโดยได้รับเบี้ยหวัด
สภาพการณ์ทางการเมืองภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานะของนายปรีดี พนมยงค์และขบวนการเสรีไทยได้รับความนิยมจากประชาชนเป็นอันมาก สามารถกำจัดบทบาทของจอมพล ป.พิบูลสงครามออกจากศูนย์กลางอำนาจทางการเมืองได้ แต่สภาวะหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่ประชาชนเดือดร้อนจากการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและเกิดภาวะเงินเฟ้อ นอกจากนี้ทหารบกมีความไม่พอใจรัฐบาลตั้งแต่สงครามโลกสิ้นสุดลง เพราะอำนาจของกองทัพบกลดลง ทหารไม่สามารถเข้าไปมีบทบาททางการเมืองเพราะข้อห้ามในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2489 เช่น สมาชิกพฤตสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐมนตรีต้องไม่เป็นข้าราชการประจำ[10]
เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2490 พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดอภิปรายทั่วไปลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดพลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 34 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489 ญัตติในการอภิปราย ได้แก่ รัฐบาลไม่สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยภายในตามนโยบายที่แถลงไว้ ดำเนินการทางเศรษฐกิจผิดพลาด ไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนานาประเทศ ใช้อำนาจทางการเมืองแทรกแซงข้าราชการประจำทำให้ข้าราชการขาดกำลังใจในการทำงาน และไม่สามารถหาข้อเท็จจริงในการสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 8 มาแถลงต่อประชาชนได้ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะชนะในการลงมติ นายกรัฐมนตรีก็ได้ลาออกเพื่อให้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ซึ่งพลเรือตรีถวัลย์ได้กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งหนึ่ง[11]
8 พฤศจิกายน พ.ศ.2490 พลโทผิน ชุณหะวัณ นายทหารนอกราชการได้ร่วมกับพันเอกกาจ กาจสงคราม พันเอกเผ่า ศรียานนท์ พันเอกสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทำการรัฐประหารรัฐบาลของพลเรือตรีหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ [12] หลังจากนั้นพลโทผินได้กลับเข้ารับราชการโดยดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารบกและ พ.ศ.2491 ได้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบก ลำดับที่ 15 โดยอยู่ในตำแหน่งถึง พ.ศ.2497 ได้รับพระราชทานยศจอมพลใน พ.ศ.2496 [13]
หลังรัฐประหาร 2490 จอมพลผิน ชุณหะวัณมีบทบาทในการผูกขาดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยแกนนำสำคัญในคณะรัฐประหารที่มีความสัมพันธ์ทางครอบครัว ได้แก่ ชุณหะวัณ อดิเรกสาร และสิริโยธิน ที่เรียกกันว่า “กลุ่มราชครู” ได้แต่งตั้งคนของตนเข้าไปเป็นคณะกรรมการบริหารบริษัทข้าวไทย ไทยนิยมพาณิชย์ และรัฐวิสาหกิจอื่นๆ นอกจากนั้นกลุ่มราชครูยังได้ตั้งบริษัทการค้าใหม่ๆอีกหลายแห่งเช่นธุรกิจส่งออกเข้าว ซึ่งในอดีตบริษัทข้าวไทยผูกขาดการค้าอยู่ ก่อตั้งบริษัทจัดจำหน่ายสินค้าขึ้นอีกหลายแห่งเพื่อมาแทนที่บริษัทไทยนิยมพาณิชย์ เข้าดำเนินงานในธนาคารสองแห่ง คือ ธนาคารเอเชียเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรม และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีการสร้างความสัมพันธ์กับนายชิน โสภณพานิชและกลุ่มธนาคารกรุงเทพด้วยการทำธุรกิจหลายประเภท เช่นทองคำ เนื้อหมู อัญมณี การค้าไม้ ก่อตั้งบริษัทส่งเสริมเศรษฐกิจแห่งชาติซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการทางการเงินแก่ธุรกิจแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร และก่อตั้งบริษัทเพื่อผลิตสินค้าป้อนให้รํฐบาล เช่นเครื่องแบบตำรวจ อาวุธและวัสดุก่อสร้าง[14]
ในช่วงปี พ.ศ.2494-พ.ศ.2499 จอมพลผินได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประเภทที่ 2 เป็นรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม และยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรระหว่าง พ.ศ.2496-พ.ศ.2500 และระหว่าง พ.ศ.2497-พ.ศ.2498 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมอีกตำแหน่ง
พ.ศ.2497 จอมพลผินพ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกและไปไปดำรงตำแหน่งรองจเรทหารทั่วไป[15]
พ.ศ.2500 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2500 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 มีจำนวนสมาชิกทั้งสิ้น 283 คน โดยประเภทที่ 1 มาจากการเลือกตั้งจำนวน 160 คน และประเภทที่ 2 มาจากการแต่งตั้งจำนวน 123 คน จอมพลผินได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 และวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2500 จอมพลผินได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลชุดนี้พ้นสภาพเมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ทำการยึดอำนาจการปกครองในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500
หลังการยึดอำนาจ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 (แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2495) ยังคงใช้บังคับต่อไป มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2500 เป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2500 จอมพลผินได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 โดยสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ สิ้นสุดเมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เข้ายึดอำนาจการปกครองประเทศในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501
เมื่อมีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองแห่งราชอาณาจักร พ.ศ. 2502 ที่กำหนดให้รัฐสภามีสภาเดียว คือ สภาร่างรัฐธรรมนูญ มีจำนวนสมาชิก 240 คน มาจากการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2502 จอมพลผิน ชุณหะวัณได้รับการแต่งตั้งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยสภาชุดดังกล่าวสิ้นสุดลงเมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2511
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2511 กำหนดให้มีสองสภา คือสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาโดยวุฒิสภามีสมาชิกจำนวน 164 คนมาจากการแต่งตั้ง จอมพลผินได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2511 โดยสภาชุดดังกล่าวสิ้นสุดลงเมื่อจอมพลถนอม กิตติขจรทำรัฐประหารตนเองเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514
ผลงานอื่นๆ
จอมพลผินเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 2 วาระ คือ ระหว่างวันที่ 12 ธันวาคม 2496 ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2500 และระหว่างวันที่ 31 มีนาคม ถึงวันที่ 16 กันยายน 2500[16]
จอมพลผิน ชุณหะวัณ ถึงแก่อสัญกรรมในวันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2516 ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
บรรณานุกรม
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ, ประวัติการเมืองไทยสนาม พ.ศ.2475-2500, (กรุงเทพฯ : มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 2559).
ปองพล อดิเรกสาร,ทหารชื่อผิน จากพลทหาร...สู่จอมพล, (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ประพันธสาส์น, 2552).
ผาสุก พงษ์ไพจิตร, คริส เบเกอร์, เศรษฐกิจการเมืองไทยสมัยกรุงเทพฯ, (เชียงใหม่ : สำนักพิมพ์ซิลค์เวอร์ม, พิมพ์ครั้งที่สาม, 2546), หน้า 153 - 154.
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, จอมพลผิน ชุณหะวัณ, เข้าถึงจาก http://archives.psd.ku.ac.th/kuout/ p064. html เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559.
กองทัพบก, จอมพลผิน ชุณหะวัณ, เข้าถึงจาก http://www.rta.mi.th/command/command15.htm เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559.
หนังสือแนะนำ
ปองพล อดิเรกสาร.(2552).ทหารชื่อผิน จากพลทหาร...สู่จอมพล.กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ประพันธสาส์น.
[1] กองทัพบก, จอมพลผิน ชุณหะวัณ, เข้าถึงจาก http://www.rta.mi.th/command/command15.htm เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559.
[2] ปองพล อดิเรกสาร,ทหารชื่อผิน จากพลทหาร...สู่จอมพล, (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ประพันธสาส์น, 2552), หน้า 17.
[3] ปองพล อดิเรกสาร,หน้า 39
[4]ปองพล อดิเรกสาร, หน้า 45
[5] ปองพล อดิเรกสาร,หน้า 46
[6] ปองพล อดิเรกสาร,หน้า 53
[7] ปองพล อดิเรกสาร,หน้า 56
[8] ปองพล อดิเรกสาร,หน้า 65
[9] ปองพล อดิเรกสาร,หน้า 240
[10] สุชิน ตันติกุล, รัฐประหาร พ.ศ.2490, (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มติชน, 2557), หน้า 72.
[11] สุชิน ตันติกุล, หน้า 75.
[12] ชาญวิทย์ เกษตรศิริ, ประวัติการเมืองไทยสนาม พ.ศ.2475-2500, (กรุงเทพฯ : มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 2559), หน้า 455.
[13] กองทัพบก, จอมพลผิน ชุณหะวัณ, , เข้าถึงจาก http://www.rta.mi.th/command/command15.htm เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559.
[14] ผาสุก พงษ์ไพจิตร, คริส เบเกอร์, เศรษฐกิจการเมืองไทยสมัยกรุงเทพฯ, (เชียงใหม่ : สำนักพิมพ์ซิลค์เวอร์ม, พิมพ์ครั้งที่สาม, 2546), หน้า 153-154.
[15] กองทัพบก, จอมพลผิน ชุณหะวัณ, เข้าถึงจาก http://www.rta.mi.th/command/command15.htm เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559.
[16] มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, จอมพลผิน ชุณหะวัณ, เข้าถึงจาก http://archives.psd.ku.ac.th/kuout/ p064. html เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559.