ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กฎหมายเพื่อเด็ก : พ.ร.บ.หางน้ำนม"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Suksan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอุปการะเด็กมาตั้งแต่มิได้ทรงอภิเษกสมรส และเมื่อทรงอภิเษกสมรสแล้วก็ทรงชุบเลี้ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยมา พระราชอัธยาศัยเช่นนี้สะท้อนถึงพระราชกรณียกิจที่ทรงให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน
[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ทรงอุปการะเด็กมาตั้งแต่มิได้ทรงอภิเษกสมรส และเมื่อทรงอภิเษกสมรสแล้วก็ทรงชุบเลี้ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยมา พระราชอัธยาศัยเช่นนี้สะท้อนถึงพระราชกรณียกิจที่ทรงให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน


ราว พุทธศักราช ๒๔๗๐ ขณะนั้นได้มีผู้นิยมใช้หางน้ำนมเลี้ยงทารกกันแพร่หลายในสยาม  ด้วยทรงตระหนักถึงความจำเป็นของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรตั้งแต่ยังเป็นทารกเพื่อให้เติบโตอย่างแข็งแรง สมบูรณ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตรา พระราชบัญญัติหางน้ำนม พุทธศักราช ๒๔๗๐ ขึ้นบังคับใช้เป็นกฎหมาย โดยห้ามมิให้ผู้ใดทำหรือนำเข้ามาหรือขายหางน้ำนมในประเทศสยามอันเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพทารก  
ราว พุทธศักราช ๒๔๗๐ ขณะนั้นได้มีผู้นิยมใช้หางน้ำนมเลี้ยงทารกกันแพร่หลายในสยาม  ด้วยทรงตระหนักถึงความจำเป็นของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรตั้งแต่ยังเป็นทารกเพื่อให้เติบโตอย่างแข็งแรง สมบูรณ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตรา [[พระราชบัญญัติหางน้ำนม พุทธศักราช ๒๔๗๐]] ขึ้นบังคับใช้เป็น[[กฎหมาย]] โดยห้ามมิให้ผู้ใดทำหรือนำเข้ามาหรือขายหางน้ำนมในประเทศสยามอันเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพทารก  


พระราชบัญญัติดังกล่าวครอบคลุมทั้งการรับไว้ขาย ยื่นขาย นำออกขาย หรือประกาศขาย ทั้งการให้ขายหรือยอมให้ขาย ส่งไปหรือมีไว้เพื่อขายและการแลกเปลี่ยนก็ให้ถือว่าเป็นการขายด้วย  
พระราชบัญญัติดังกล่าวครอบคลุมทั้งการรับไว้ขาย ยื่นขาย นำออกขาย หรือประกาศขาย ทั้งการให้ขายหรือยอมให้ขาย ส่งไปหรือมีไว้เพื่อขายและการแลกเปลี่ยนก็ให้ถือว่าเป็นการขายด้วย  

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 16:15, 11 กุมภาพันธ์ 2559

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอุปการะเด็กมาตั้งแต่มิได้ทรงอภิเษกสมรส และเมื่อทรงอภิเษกสมรสแล้วก็ทรงชุบเลี้ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยมา พระราชอัธยาศัยเช่นนี้สะท้อนถึงพระราชกรณียกิจที่ทรงให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน

ราว พุทธศักราช ๒๔๗๐ ขณะนั้นได้มีผู้นิยมใช้หางน้ำนมเลี้ยงทารกกันแพร่หลายในสยาม ด้วยทรงตระหนักถึงความจำเป็นของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรตั้งแต่ยังเป็นทารกเพื่อให้เติบโตอย่างแข็งแรง สมบูรณ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตรา พระราชบัญญัติหางน้ำนม พุทธศักราช ๒๔๗๐ ขึ้นบังคับใช้เป็นกฎหมาย โดยห้ามมิให้ผู้ใดทำหรือนำเข้ามาหรือขายหางน้ำนมในประเทศสยามอันเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพทารก

พระราชบัญญัติดังกล่าวครอบคลุมทั้งการรับไว้ขาย ยื่นขาย นำออกขาย หรือประกาศขาย ทั้งการให้ขายหรือยอมให้ขาย ส่งไปหรือมีไว้เพื่อขายและการแลกเปลี่ยนก็ให้ถือว่าเป็นการขายด้วย

พระราชบัญญัตินี้ได้เป็นพื้นฐานของกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพอาหารอีกหลายฉบับในเวลาต่อมา

ที่มา

บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖