ผลต่างระหว่างรุ่นของ "27 มิถุนายน พ.ศ. 2475"
หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''ผู้เรียบเรียง''' ศ.นรนิต เศรษฐบุตร ---- '''ผู้ทรงคุณวุ...' |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) | |||
บรรทัดที่ 1: | บรรทัดที่ 1: | ||
'''ผู้เรียบเรียง''' | '''ผู้เรียบเรียง''' ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร | ||
---- | ---- | ||
บรรทัดที่ 6: | บรรทัดที่ 6: | ||
---- | ---- | ||
วันนี้เป็นวันที่ประเทศไทยมี[[รัฐธรรมนูญฉบับแรก]]ที่เรียกว่า “พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ. 2475” จากชื่อได้แสดงอย่างชัดเจนว่าเป็นกติกาการปกครองบ้านเมืองชั่วคราว แต่ก็มีความสำคัญเพราะแสดงให้ทราบว่าระบอบการปกครองที่จะมีขึ้นนั้นมีรูปแบบอย่างไร | |||
รัฐธรรมนูญฉบับนี้[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ได้พระราชทานให้นำออกใช้เป็นการชั่วคราวหลัง[[การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง]]ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 เพียงสามวัน | |||
เนื้อหาสาระในบททั่วไปได้ยืนยันถึงอำนาจของประชาชนและการใช้อำนาจแทนประชาชนไว้ใน 2 มาตรา | เนื้อหาสาระในบททั่วไปได้ยืนยันถึงอำนาจของประชาชนและการใช้อำนาจแทนประชาชนไว้ใน 2 มาตรา | ||
บรรทัดที่ 16: | บรรทัดที่ 16: | ||
“มาตรา 2 ให้มีประธานและคณะบุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้เป็นผู้ใช้อำนาจแทนราษฎรตามที่จะได้กล่าวต่อไปในธรรมนูญ คือ | “มาตรา 2 ให้มีประธานและคณะบุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้เป็นผู้ใช้อำนาจแทนราษฎรตามที่จะได้กล่าวต่อไปในธรรมนูญ คือ | ||
:::1. กษัตริย์ | :::1. [[กษัตริย์]] | ||
:::2. สภาผู้แทนราษฎร | :::2. [[สภาผู้แทนราษฎร]] | ||
:::3. คณะกรรมการราษฎร | :::3. [[คณะกรรมการราษฎร]] | ||
:::4. | :::4. [[ศาล]]” | ||
สถาบันใหม่สองสถาบัน ได้แก่ สภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมการราษฎร | สถาบันใหม่สองสถาบัน ได้แก่ สภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมการราษฎร สภานั้นก็จะเป็น[[อำนาจนิติบัญญัติ]]ที่[[สมาชิกสภา]]จะมาจาก[[การเลือกตั้ง]]ของราษฎร แต่ชุดแรกนั้นมาจากการแต่งตั้งจำนวน 70 คน ทั้งนี้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ให้ราษฎรมีความเสมอภาคกันในการมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ดังที่มาตรา 14 ระบุว่า | ||
“ราษฎรไม่ว่าเพศใด เมื่อมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ย่อมมีสิทธิออกเสียงลงมติเลือกผู้แทนหมู่บ้านได้...” | “ราษฎรไม่ว่าเพศใด เมื่อมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ย่อมมีสิทธิออกเสียงลงมติเลือกผู้แทนหมู่บ้านได้...” | ||
พ.ร.บ. ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินฯ นี้ ใช้เป็นกติกาในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองหลังวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 อยู่มาได้จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 จึงมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ลงวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 ที่ต้องการให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับถาวรนั่นเอง | [[พ.ร.บ. ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินฯ]] นี้ ใช้เป็นกติกาในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองหลังวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 อยู่มาได้จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 จึงมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ลงวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 ที่ต้องการให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับถาวรนั่นเอง | ||
[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]] | [[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]] |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:17, 16 กันยายน 2556
ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
วันนี้เป็นวันที่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่เรียกว่า “พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ. 2475” จากชื่อได้แสดงอย่างชัดเจนว่าเป็นกติกาการปกครองบ้านเมืองชั่วคราว แต่ก็มีความสำคัญเพราะแสดงให้ทราบว่าระบอบการปกครองที่จะมีขึ้นนั้นมีรูปแบบอย่างไร
รัฐธรรมนูญฉบับนี้พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานให้นำออกใช้เป็นการชั่วคราวหลังการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 เพียงสามวัน
เนื้อหาสาระในบททั่วไปได้ยืนยันถึงอำนาจของประชาชนและการใช้อำนาจแทนประชาชนไว้ใน 2 มาตรา
“มาตรา 1 อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย”
“มาตรา 2 ให้มีประธานและคณะบุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้เป็นผู้ใช้อำนาจแทนราษฎรตามที่จะได้กล่าวต่อไปในธรรมนูญ คือ
- 1. กษัตริย์
- 4. ศาล”
สถาบันใหม่สองสถาบัน ได้แก่ สภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมการราษฎร สภานั้นก็จะเป็นอำนาจนิติบัญญัติที่สมาชิกสภาจะมาจากการเลือกตั้งของราษฎร แต่ชุดแรกนั้นมาจากการแต่งตั้งจำนวน 70 คน ทั้งนี้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ให้ราษฎรมีความเสมอภาคกันในการมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ดังที่มาตรา 14 ระบุว่า
“ราษฎรไม่ว่าเพศใด เมื่อมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ย่อมมีสิทธิออกเสียงลงมติเลือกผู้แทนหมู่บ้านได้...”
พ.ร.บ. ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินฯ นี้ ใช้เป็นกติกาในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองหลังวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 อยู่มาได้จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 จึงมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ลงวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 ที่ต้องการให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับถาวรนั่นเอง