ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การก่อตั้งสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 7 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
{{รอผู้ทรง}}
'''ผู้เรียบเรียง''' วัชรา ไชยสาร  
'''ผู้เรียบเรียง''' วัชรา ไชยสาร  


บรรทัดที่ 9: บรรทัดที่ 7:
----
----


 
=='''การก่อตั้งสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส (Conseil Economique et Social : CES)'''==
'''การก่อตั้งสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส (Conseil Economique et Social : CES)'''


== แนวคิดในการก่อตั้งสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ==
== แนวคิดในการก่อตั้งสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ==


แนวความคิดในการมีสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส มีมาตั้งแต่สมัยที่สาธารณรัฐฝรั่งเศส ปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เช่น พระเจ้าเฮนรี่ที่ 4 ได้ตั้งสภาที่ปรึกษาทางด้านการค้า (Conseil du commerce) ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มตัวแทนจากภาคเอกชน สภาที่ปรึกษาฯ จัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกตามคำเรียกร้องของสหภาพแรงงาน (Syndicats ouvriers) ใน ค.ศ. 1925
แนวความคิดในการมีสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส มีมาตั้งแต่สมัยที่สาธารณรัฐฝรั่งเศส ปกครองด้วย[[ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์]] เช่น พระเจ้าเฮนรี่ที่ 4 ได้ตั้งสภาที่ปรึกษาทางด้านการค้า (Conseil du commerce) ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มตัวแทนจากภาคเอกชน สภาที่ปรึกษาฯ จัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกตามคำเรียกร้องของ[[สหภาพแรงงาน]] (Syndicats ouvriers) ใน ค.ศ. 1925


หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกประสบปัญหาความยากจน แต่ละประเทศจึงพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจ แนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศฝรั่งเศส เป็นที่สนใจของ นักวางแผนโดยทั่วไป ในช่วงดังกล่าวฝรั่งเศสเป็นประเทศเดียวในยุโรปตะวันตกที่เน้นการวางแผนอย่างมีระบบทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ประกอบกับสหพันธ์ลูกจ้างในขณะนั้นมีความเข้มแข็งมาก ประธานาธิบดีเดอโกล ผู้นำประเทศขณะนั้นมีความเห็นว่า ผู้ประกอบการและกลุ่มอาชีพควรมีตัวแทน ซึ่งเป็นอำนาจในการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยองค์กรสำคัญองค์กรหนึ่งที่มีส่วนช่วยพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประเทศ คือ สภาเศรษฐกิจ และได้บัญญัติสภานี้ไว้ในรัฐธรรมนูญสาธารณรัฐที่ 4 (ค.ศ. 1946) มาตรา 25 โดยกล่าวถึงให้มีการจัดตั้งสภาเศรษฐกิจขึ้น มีหน้าที่ในการให้ความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมาย (กฎหมายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ) และให้คำแนะนำในขอบเขตอำนาจของสภาเศรษฐกิจ รวมทั้งกฎหมายบางฉบับต้องเสนอให้สภาเศรษฐกิจพิจารณาให้ความเห็นก่อนที่รัฐสภาจะทำการพิจารณา<ref>พรรณราย ขันธกิจ. บทบาทและหน้าที่ขององค์กรสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. นนทบุรี :
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกประสบปัญหาความยากจน แต่ละประเทศจึงพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจ แนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศฝรั่งเศส เป็นที่สนใจของนักวางแผนโดยทั่วไป ในช่วงดังกล่าวฝรั่งเศสเป็นประเทศเดียวในยุโรปตะวันตกที่เน้นการวางแผนอย่างมีระบบทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ประกอบกับสหพันธ์ลูกจ้างในขณะนั้นมีความเข้มแข็งมาก ประธานาธิบดีเดอโกล ผู้นำประเทศขณะนั้นมีความเห็นว่า ผู้ประกอบการและกลุ่มอาชีพควรมีตัวแทน ซึ่งเป็นอำนาจในการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยองค์กรสำคัญองค์กรหนึ่งที่มีส่วนช่วยพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประเทศ คือ สภาเศรษฐกิจ และได้บัญญัติสภานี้ไว้ใน[[รัฐธรรมนูญ]]สาธารณรัฐที่ 4 (ค.ศ. 1946) มาตรา 25 โดยกล่าวถึงให้มีการจัดตั้งสภาเศรษฐกิจขึ้น มีหน้าที่ในการให้ความเห็นเกี่ยวกับร่าง[[กฎหมาย]] (กฎหมายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ) และให้คำแนะนำในขอบเขตอำนาจของสภาเศรษฐกิจ รวมทั้งกฎหมายบางฉบับต้องเสนอให้สภาเศรษฐกิจพิจารณาให้ความเห็นก่อนที่[[รัฐสภา]]จะทำการพิจารณา
สถาบันพระปกเกล้า, 2548.</ref>  นอกจากนั้น ในการถกเถียงกันเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญเมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว มีข้อเสนอว่าวุฒิสภาควรเป็นสภาวิชาชีพหรือสภาการเมือง


ในที่สุดสภาร่างรัฐธรรมนูญเห็นว่าควรเป็นสภาการเมือง แต่แนวความคิดเรื่อง สภาวิชาชีพก็ยังไม่ตกไปเสียเลยทีเดียว ความคิดเรื่องนี้มีมานานแล้ว เช่น ในปี ค.ศ.1925 สาธารณรัฐฝรั่งเศสได้ตั้ง “สภาสังคม-วิชาชีพ” (Socio-professional) ขึ้น ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น “สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ” ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1946 มาตรา 25 และปี ค.ศ. 1958 ได้เปลี่ยนเป็น “สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม” ซึ่งกำหนดโดยรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมขึ้น ทำหน้าที่ในการให้ความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมาย (กฎหมายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ) และให้คำแนะนำในขอบเขตอำนาจของสภาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งกฎหมายบางฉบับต้องเสนอให้สภาเศรษฐกิจและสังคมพิจารณาให้ความเห็นก่อนที่รัฐสภาจะทำการพิจารณา รวมทั้งให้สภาเศรษฐกิจมีหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญในการให้คำปรึกษาแก่คณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะเรื่องการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการจ้างงานเต็มที่และการใช้ทรัพยากรทางวัตถุอย่างมีเหตุมีผล ต้องผ่านการให้ความคิดเห็นจากสภาเศรษฐกิจเสียก่อน
นอกจากนั้น ในการถกเถียงกันเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญเมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว มีข้อเสนอว่าวุฒิสภาควรเป็นสภาวิชาชีพหรือสภาการเมือง ในที่สุดสภาร่างรัฐธรรมนูญเห็นว่าควรเป็นสภาการเมือง แต่แนวความคิดเรื่องสภาวิชาชีพก็ยังไม่ตกไปเสียเลยทีเดียว ความคิดเรื่องนี้มีมานานแล้ว เช่น ในปี ค.ศ.1925 สาธารณรัฐฝรั่งเศสได้ตั้ง “สภาสังคม-วิชาชีพ” (Socio-professional) ขึ้น ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น “สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ” ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1946 มาตรา 25 และปี ค.ศ. 1958 ได้เปลี่ยนเป็น “สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม” ซึ่งกำหนดโดยรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมขึ้น ทำหน้าที่ในการให้ความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมาย (กฎหมายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ) และให้คำแนะนำในขอบเขตอำนาจของสภาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งกฎหมายบางฉบับต้องเสนอให้สภาเศรษฐกิจและสังคมพิจารณาให้ความเห็นก่อนที่[[รัฐสภา]]จะทำการพิจารณา รวมทั้งให้สภาเศรษฐกิจมีหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญในการให้คำปรึกษาแก่[[คณะรัฐมนตรี]] โดยเฉพาะเรื่องการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการจ้างงานเต็มที่และการใช้ทรัพยากรทางวัตถุอย่างมีเหตุมีผล ต้องผ่านการให้ความคิดเห็นจากสภาเศรษฐกิจเสียก่อน


== บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญว่าด้วยสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ==
== บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญว่าด้วยสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ==
บรรทัดที่ 33: บรรทัดที่ 29:
สมาชิกสภาเศรษฐกิจและสังคมคนหนึ่งคนใดอาจได้รับการมอบหมายจากสภาเศรษฐกิจและสังคม เพื่อไปชี้แจงต่อที่ประชุมของสภาใดสภาหนึ่งต่อความเห็นของสภาเศรษฐกิจและสังคมที่มีต่อร่างรัฐบัญญัติหรือร่างกฎหมายที่ได้เสนอต่อสภาเศรษฐกิจและสังคม”  
สมาชิกสภาเศรษฐกิจและสังคมคนหนึ่งคนใดอาจได้รับการมอบหมายจากสภาเศรษฐกิจและสังคม เพื่อไปชี้แจงต่อที่ประชุมของสภาใดสภาหนึ่งต่อความเห็นของสภาเศรษฐกิจและสังคมที่มีต่อร่างรัฐบัญญัติหรือร่างกฎหมายที่ได้เสนอต่อสภาเศรษฐกิจและสังคม”  


'''มาตรา 70''' บัญญัติว่า “รัฐบาลอาจของความเห็นจากสภาเศรษฐกิจและสังคมในปัญหาที่มีลักษณะในทางเศรษฐกิจและสังคมได้ แผนงานทุกแผนงาน หรือร่างกฎหมายทุกฉบับที่มีลักษณะเกี่ยวกับการวางแผนทางเศรษฐกิจหรือสังคมจะต้องนำเสนอต่อสภาเศรษฐกิจและสังคมเพื่อขอ ความเห็น”
'''มาตรา 70''' บัญญัติว่า “รัฐบาลอาจของความเห็นจากสภาเศรษฐกิจและสังคมในปัญหาที่มีลักษณะในทางเศรษฐกิจและสังคมได้ แผนงานทุกแผนงาน หรือร่างกฎหมายทุกฉบับที่มีลักษณะเกี่ยวกับการวางแผนทางเศรษฐกิจหรือสังคมจะต้องนำเสนอต่อสภาเศรษฐกิจและสังคมเพื่อขอความเห็น”
 
'''มาตรา 71''' บัญญัติว่า “องค์ประกอบของสภาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งหลักเกณฑ์ในการดำเนินงานให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ใน[[กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ]]”


'''มาตรา 71''' บัญญัติว่า “องค์ประกอบของสภาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งหลักเกณฑ์ในการดำเนินงานให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ”
<center>[[ภาพ:French1.png]]</center>


จากบทบัญญัติข้างต้น องค์ประกอบ และแนวทางการดำเนินงานของสภาเศรษฐกิจและสังคมของฝรั่งเศสต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งปัจจุบันกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ตราขึ้นตามบทบัญญัติดังกล่าว ได้แก่ รัฐกำหนดประกอบรัฐธรรมนูญที่ 58 -1360 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 1958 ซึ่งได้รับการแก้ไขเพิ่มเติม 4 ครั้ง โดยรัฐกำหนดประกอบ รัฐธรรมนูญที่ 62 - 918 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 1962 รัฐบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ 84 - 449 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 1984 รัฐบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ 90 - 1001 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 1990 และรัฐบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ 92 - 730 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 1992 ซึ่งกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญดังกล่าว มีเนื้อหาสาระที่สำคัญ คือ มาตรา 1 - 6 บัญญัติถึงอำนาจมาตรา 7 - 14 บัญญัติถึงโครงสร้าง และมาตรา 15 - 25 บัญญัติถึงการดำเนินงานของสภาเศรษฐกิจและสังคม  
จากบทบัญญัติข้างต้น องค์ประกอบ และแนวทางการดำเนินงานของสภาเศรษฐกิจและสังคมของฝรั่งเศสต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งปัจจุบันกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ตราขึ้นตามบทบัญญัติดังกล่าว ได้แก่ รัฐกำหนดประกอบรัฐธรรมนูญที่ 58 -1360 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 1958 ซึ่งได้รับการแก้ไขเพิ่มเติม 4 ครั้ง โดยรัฐกำหนดประกอบ รัฐธรรมนูญที่ 62 - 918 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 1962 รัฐบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ 84 - 449 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 1984 รัฐบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ 90 - 1001 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 1990 และรัฐบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ 92 - 730 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 1992 ซึ่งกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญดังกล่าว มีเนื้อหาสาระที่สำคัญ คือ มาตรา 1 - 6 บัญญัติถึงอำนาจมาตรา 7 - 14 บัญญัติถึงโครงสร้าง และมาตรา 15 - 25 บัญญัติถึงการดำเนินงานของสภาเศรษฐกิจและสังคม


== บรรณานุกรม ==
== ECOSOC คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคม : องค์กรที่ปรึกษาระดับภาค ==
นอกจากนั้น การปกครองในระดับภาคของประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศสยังมีคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคม (ECOSOC : Conseil économique et social) ทําหน้าที่เป็นองค์กรที่ปรึกษา ซึ่งมีสมาชิกอยู่ระหว่าง 40 ถึง 110 คน มีองค์ประกอบของสมาชิกตามที่มาอยู่ด้วยกัน 4 ประเภท คือ ผู้แทนวิสาหกิจและผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้แทนสหภาพแรงงาน ผู้แทนองค์กรที่มีส่วนร่วมในการดําเนินกิจกรรมของภาค และผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ตามที่กําหนดไว้ในกฎหมาย มีวาระการดํารงตําแหน่ง 6 ป
 
คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมมีบทบาทหน้าที่เป็นองค์กรที่ปรึกษาของสภาภาคและ ประธานสภาภาคในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแผนพัฒนาระดับชาติ การจัดทําร่างงบประมาณรายจ่ายของภาค และจัดทํารายงานแสดงความเห็นไปยังรัฐบาล นอกจากนี้ยังถูกกําหนดให้มีบทบาทในฐานะองค์กรที่ปรึกษาในโครงการพัฒนาต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม <ref>  http://www.sommetjohannesburg.org/institutions/frame-ecosoc.html, กันยายน 2553.</ref>
 
== ที่มา ==


พรรณราย ขันธกิจ. บทบาทและหน้าที่ขององค์กรสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า, 2548.
พรรณราย ขันธกิจ. บทบาทและหน้าที่ขององค์กรสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า, 2548.
บรรทัดที่ 54: บรรทัดที่ 58:


http://www.eesc.europa.eu/
http://www.eesc.europa.eu/
http://www.sommetjohannesburg.org/institutions/frame-ecosoc.html


==อ้างอิง==
==อ้างอิง==
<references/>
<references/>
[[หมวดหมู่:ฝรั่งเศส]]
[[หมวดหมู่:วัชรา ไชยสาร]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:47, 5 ตุลาคม 2554

ผู้เรียบเรียง วัชรา ไชยสาร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ พรรณราย ขันธกิจ


การก่อตั้งสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส (Conseil Economique et Social : CES)

แนวคิดในการก่อตั้งสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม

แนวความคิดในการมีสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส มีมาตั้งแต่สมัยที่สาธารณรัฐฝรั่งเศส ปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เช่น พระเจ้าเฮนรี่ที่ 4 ได้ตั้งสภาที่ปรึกษาทางด้านการค้า (Conseil du commerce) ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มตัวแทนจากภาคเอกชน สภาที่ปรึกษาฯ จัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกตามคำเรียกร้องของสหภาพแรงงาน (Syndicats ouvriers) ใน ค.ศ. 1925

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกประสบปัญหาความยากจน แต่ละประเทศจึงพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจ แนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศฝรั่งเศส เป็นที่สนใจของนักวางแผนโดยทั่วไป ในช่วงดังกล่าวฝรั่งเศสเป็นประเทศเดียวในยุโรปตะวันตกที่เน้นการวางแผนอย่างมีระบบทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ประกอบกับสหพันธ์ลูกจ้างในขณะนั้นมีความเข้มแข็งมาก ประธานาธิบดีเดอโกล ผู้นำประเทศขณะนั้นมีความเห็นว่า ผู้ประกอบการและกลุ่มอาชีพควรมีตัวแทน ซึ่งเป็นอำนาจในการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยองค์กรสำคัญองค์กรหนึ่งที่มีส่วนช่วยพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประเทศ คือ สภาเศรษฐกิจ และได้บัญญัติสภานี้ไว้ในรัฐธรรมนูญสาธารณรัฐที่ 4 (ค.ศ. 1946) มาตรา 25 โดยกล่าวถึงให้มีการจัดตั้งสภาเศรษฐกิจขึ้น มีหน้าที่ในการให้ความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมาย (กฎหมายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ) และให้คำแนะนำในขอบเขตอำนาจของสภาเศรษฐกิจ รวมทั้งกฎหมายบางฉบับต้องเสนอให้สภาเศรษฐกิจพิจารณาให้ความเห็นก่อนที่รัฐสภาจะทำการพิจารณา

นอกจากนั้น ในการถกเถียงกันเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญเมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว มีข้อเสนอว่าวุฒิสภาควรเป็นสภาวิชาชีพหรือสภาการเมือง ในที่สุดสภาร่างรัฐธรรมนูญเห็นว่าควรเป็นสภาการเมือง แต่แนวความคิดเรื่องสภาวิชาชีพก็ยังไม่ตกไปเสียเลยทีเดียว ความคิดเรื่องนี้มีมานานแล้ว เช่น ในปี ค.ศ.1925 สาธารณรัฐฝรั่งเศสได้ตั้ง “สภาสังคม-วิชาชีพ” (Socio-professional) ขึ้น ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น “สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ” ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1946 มาตรา 25 และปี ค.ศ. 1958 ได้เปลี่ยนเป็น “สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม” ซึ่งกำหนดโดยรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมขึ้น ทำหน้าที่ในการให้ความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมาย (กฎหมายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ) และให้คำแนะนำในขอบเขตอำนาจของสภาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งกฎหมายบางฉบับต้องเสนอให้สภาเศรษฐกิจและสังคมพิจารณาให้ความเห็นก่อนที่รัฐสภาจะทำการพิจารณา รวมทั้งให้สภาเศรษฐกิจมีหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญในการให้คำปรึกษาแก่คณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะเรื่องการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการจ้างงานเต็มที่และการใช้ทรัพยากรทางวัตถุอย่างมีเหตุมีผล ต้องผ่านการให้ความคิดเห็นจากสภาเศรษฐกิจเสียก่อน

บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญว่าด้วยสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส

นอกจากหน้าที่ดังกล่าวแล้ว สภาเศรษฐกิจยังมีหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญในการให้คำปรึกษาแก่คณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะเรื่องการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการจ้างงานเต็มที่และการใช้ทรัพยากรทางวัตถุอย่างมีเหตุมีผล ต้องผ่านการให้ความคิดเห็นจากสภาเศรษฐกิจเสียก่อน

ปัจจุบันประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศสยังคงรักษาบทบัญญัติว่าด้วยสภาเศรษฐกิจไว้ใน รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐที่ 5 (ค.ศ.1958) แต่เพิ่มขอบเขตอำนาจของสภาเศรษฐกิจเป็นสภาเศรษฐกิจและสังคม (Conseil Economique et Social : CES) และใช้บังคับมาถึงปัจจุบัน

รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้กำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่ของสภาอันจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อรัฐบาลและต่อสภา รวมทั้งให้ความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายเศรษฐกิจมีลักษณะที่ปรับตัวได้และเคร่งครัดน้อยกว่ากฎหมายเอกชน จึงทำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยรัฐธรรมนูญ หมวด 11 มาตรา 69 - 71 ได้บัญญัติเกี่ยวกับสภาเศรษฐกิจและสังคมไว้ ดังนี้[1]

มาตรา 69 บัญญัติว่า “ในกรณีที่รัฐบาลร้องขอ สภาเศรษฐกิจและสังคม ต้องให้ความเห็นเกี่ยวกับร่างบัญญัติ ร่างรัฐกำหนด หรือร่างรัฐกฤษฎีกา รวมทั้งร่างกฎหมายของสมาชิกรัฐสภาที่ได้เสนอต่อสภาเศรษฐกิจและสังคม

สมาชิกสภาเศรษฐกิจและสังคมคนหนึ่งคนใดอาจได้รับการมอบหมายจากสภาเศรษฐกิจและสังคม เพื่อไปชี้แจงต่อที่ประชุมของสภาใดสภาหนึ่งต่อความเห็นของสภาเศรษฐกิจและสังคมที่มีต่อร่างรัฐบัญญัติหรือร่างกฎหมายที่ได้เสนอต่อสภาเศรษฐกิจและสังคม”

มาตรา 70 บัญญัติว่า “รัฐบาลอาจของความเห็นจากสภาเศรษฐกิจและสังคมในปัญหาที่มีลักษณะในทางเศรษฐกิจและสังคมได้ แผนงานทุกแผนงาน หรือร่างกฎหมายทุกฉบับที่มีลักษณะเกี่ยวกับการวางแผนทางเศรษฐกิจหรือสังคมจะต้องนำเสนอต่อสภาเศรษฐกิจและสังคมเพื่อขอความเห็น”

มาตรา 71 บัญญัติว่า “องค์ประกอบของสภาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งหลักเกณฑ์ในการดำเนินงานให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ

จากบทบัญญัติข้างต้น องค์ประกอบ และแนวทางการดำเนินงานของสภาเศรษฐกิจและสังคมของฝรั่งเศสต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งปัจจุบันกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ตราขึ้นตามบทบัญญัติดังกล่าว ได้แก่ รัฐกำหนดประกอบรัฐธรรมนูญที่ 58 -1360 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 1958 ซึ่งได้รับการแก้ไขเพิ่มเติม 4 ครั้ง โดยรัฐกำหนดประกอบ รัฐธรรมนูญที่ 62 - 918 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 1962 รัฐบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ 84 - 449 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 1984 รัฐบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ 90 - 1001 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 1990 และรัฐบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ 92 - 730 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 1992 ซึ่งกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญดังกล่าว มีเนื้อหาสาระที่สำคัญ คือ มาตรา 1 - 6 บัญญัติถึงอำนาจมาตรา 7 - 14 บัญญัติถึงโครงสร้าง และมาตรา 15 - 25 บัญญัติถึงการดำเนินงานของสภาเศรษฐกิจและสังคม

ECOSOC คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคม : องค์กรที่ปรึกษาระดับภาค

นอกจากนั้น การปกครองในระดับภาคของประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศสยังมีคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคม (ECOSOC : Conseil économique et social) ทําหน้าที่เป็นองค์กรที่ปรึกษา ซึ่งมีสมาชิกอยู่ระหว่าง 40 ถึง 110 คน มีองค์ประกอบของสมาชิกตามที่มาอยู่ด้วยกัน 4 ประเภท คือ ผู้แทนวิสาหกิจและผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้แทนสหภาพแรงงาน ผู้แทนองค์กรที่มีส่วนร่วมในการดําเนินกิจกรรมของภาค และผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ตามที่กําหนดไว้ในกฎหมาย มีวาระการดํารงตําแหน่ง 6 ป

คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมมีบทบาทหน้าที่เป็นองค์กรที่ปรึกษาของสภาภาคและ ประธานสภาภาคในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแผนพัฒนาระดับชาติ การจัดทําร่างงบประมาณรายจ่ายของภาค และจัดทํารายงานแสดงความเห็นไปยังรัฐบาล นอกจากนี้ยังถูกกําหนดให้มีบทบาทในฐานะองค์กรที่ปรึกษาในโครงการพัฒนาต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม [2]

ที่มา

พรรณราย ขันธกิจ. บทบาทและหน้าที่ขององค์กรสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า, 2548.

วัชรา ไชยสาร. สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส และสมาคมที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม และสถาบันในลักษณะเดียวกัน (AICESIS) พร้อมด้วยองค์กรสภาที่ปรึกษาในประเทศเบลเยี่ยม. วารสารสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม – กันยายน 2549.

สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. รายงานการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้านวิเทศสัมพันธ์และศึกษาดูงาน ณ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 11-20 พฤษภาคม 2549.

ดูเพิ่มเติม

http://www.nesac.go.th/document/show11.php?did=07080001

http://www.conseil-economique-et-social.fr/

http://www.eesc.europa.eu/

http://www.sommetjohannesburg.org/institutions/frame-ecosoc.html

อ้างอิง

  1. ทิวา เงินยวง. รูปแบบองค์กรที่ปรึกษาและให้คำแนะนำทางเศรษฐกิจและสังคม. กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.), 2538.
  2. http://www.sommetjohannesburg.org/institutions/frame-ecosoc.html, กันยายน 2553.