ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สิทธิและเสรีภาพ"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Adminkpi (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Adminkpi (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
บรรทัดที่ 22: บรรทัดที่ 22:
''                   ๓) ต้องไม่กระทบสิทธิเสรีภาพของคนอื่น''
''                   ๓) ต้องไม่กระทบสิทธิเสรีภาพของคนอื่น''


                   ตัวอย่าง สิทธิที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เช่น สิทธิในชีวิตและร่างกายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘  สิทธิส่วนบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๒ สิทธิในทรัพย์สินและการสืบมรดกตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๗ สิทธิได้รับทราบและเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะ สิทธิเสนอเรื่องราวร้องทุกข์และได้รับแจ้งผลการพิจารณาโดยรวดเร็ว หรือสิทธิฟ้องหน่วยงานของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๑ สิทธิของบุคคลหรือชุมชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๓ สิทธิของผู้บริโภคตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๖ สิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๗ สิทธิของมารดาในช่วงระหว่างก่อนและหลังการคลอดบุตร สิทธิขอบุคคลซึ่งมีอายุเกิน ๖๐ ปี และไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๘   
                   ตัวอย่าง สิทธิที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เช่น สิทธิในชีวิตและร่างกายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ สิทธิส่วนบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๒ สิทธิในทรัพย์สินและการสืบมรดกตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๗ สิทธิได้รับทราบและเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะ สิทธิเสนอเรื่องราวร้องทุกข์และได้รับแจ้งผลการพิจารณาโดยรวดเร็ว หรือสิทธิฟ้องหน่วยงานของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๑ สิทธิของบุคคลหรือชุมชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๓ สิทธิของผู้บริโภคตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๖ สิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๗ สิทธิของมารดาในช่วงระหว่างก่อนและหลังการคลอดบุตร สิทธิขอบุคคลซึ่งมีอายุเกิน ๖๐ ปี และไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๘   


                   ตัวอย่าง เสรีภาพที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เช่น เสรีภาพในชีวิตและร่างกายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ เสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๑ เสรีภาพในเคหสถานตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๓ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือเสรีภาพทางวิชาการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๓ เสรีภาพของสื่อมวลชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๕ เสรีภาพในการติดต่อสื่อสารถึงกันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๖ เสรีภาพในการเดินทางและการเลือกถิ่นที่อยู่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๘ เสรีภาพในการปรกอบอาชีพตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๐ เสรีภาพในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา๔๔ เสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๕   
                   ตัวอย่าง เสรีภาพที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เช่น เสรีภาพในชีวิตและร่างกายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ เสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๑ เสรีภาพในเคหสถานตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๓ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือเสรีภาพทางวิชาการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๓ เสรีภาพของสื่อมวลชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๕ เสรีภาพในการติดต่อสื่อสารถึงกันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๖ เสรีภาพในการเดินทางและการเลือกถิ่นที่อยู่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๘ เสรีภาพในการปรกอบอาชีพตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๐ เสรีภาพในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา๔๔ เสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๕   
บรรทัดที่ 35: บรรทัดที่ 35:


''                   (๔) ต้องระบุเหตุผลความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพไว้ด้วย''  
''                   (๔) ต้องระบุเหตุผลความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพไว้ด้วย''  


'''<big>เอกสารอ้างอิง</big>'''
'''<big>เอกสารอ้างอิง</big>'''
บรรทัดที่ 56: บรรทัดที่ 57:


<sup>[6]</sup>คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ. ความมุ่งหมายและคาอธิบายประกอบของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐.  ๒๕๖๒. หน้า  ๓๘ - ๔๐.
<sup>[6]</sup>คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ. ความมุ่งหมายและคาอธิบายประกอบของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐.  ๒๕๖๒. หน้า  ๓๘ - ๔๐.
[[หมวดหมู่:สารานุกรม คำศัพท์ต่าง ๆ]]
[[index.php?title=หมวดหมู่:สารานุกรม คำศัพท์ต่าง ๆ]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:31, 18 มิถุนายน 2568

ผู้เรียบเรียง : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


สิทธิและเสรีภาพ

                   “สิทธิ(Right) คือ อำนาจที่กฎหมายรับรองให้แก่บุคคลในอันที่จะกระทำการเกี่ยวข้องกับผู้อื่น โดยการเรียกร้องให้ผู้อื่นกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจงให้เกิดประโยชน์แก่ตน[1]

                   ความหมายของสิทธิที่กล่าวข้างต้นเป็น “สิทธิ” ตามความหมายทั่วไป แต่ “สิทธิตามรัฐธรรมนูญ” นั้น ถือว่าเป็น “สิทธิตามกฎหมายมหาชน” (das subjektive oeffcntliche Recht) หมายถึง อำนาจตามรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายสูงสุดได้บัญญัติให้การรับรองแก่ปัจเจกบุคคลในอันที่จะกระทำการใดหรือไม่กระทำการใด การให้อำนาจแก่ปัจเจกบุคคลดังกล่าวได้ก่อให้เกิดสิทธิเรียกร้องที่จะไม่ให้บุคคลใดแทรกแซงในสิทธิตามรัฐธรรมนูญของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรียกร้องต่อองค์กรของรัฐมิให้แทรกแซงในขอบเขตแห่งสิทธิของตน ในบางกรณีการรับรองดังกล่าวได้ก่อให้เกิดสิทธิเรียกร้องให้รัฐดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง สิทธิตามรัฐธรรมนูญยังหมายรวมถึงการให้หลักประกันในทางหลักการ (die institutionellen Garantien) ซี่งหมายถึงการมุ่งคุ้มครองต่อสถาบันในทางกฎหมายในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น มุ่งคุ้มครอง “กรรมสิทธิ์” หรือ “เสรีภาพทางวิชาการ” ดังนั้น สิทธิตามรัฐธรรมนูญจึงเป็นความสัมพันธ์ระหว่างปัจเจกบุคคลกับรัฐ และสิทธิตามรัฐธรรมนูญเป็นสิทธิที่ผูกพันองค์กรผู้ใช้อำนาจรัฐทั้งหลายที่จะต้องให้ความเคารพ ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิตามรัฐธรรมนูญดังกล่าว เพื่อให้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมีผลในทางปฏิบัติ[2]

                   ส่วน เสรีภาพ (Liberty-Freedom) คือ อำนาจที่กฎหมายรับรองให้แก่บุคคลในอันที่จะกระทำการเกี่ยวกับตนเอง โดยกระทำในสิ่งที่ตนประสงค์จะทำและไม่กระทำในสิ่งที่ตนไม่ประสงค์จะทำ[3] เสรีภาพจึงเป็นอำนาจในการกำหนดตนเองโดยอิสระของบุคคลที่จะกระทำการใดหรือไม่กระทำการใดอันเป็นอำนาจที่มีเหนือตนเอง

                   ความแตกต่างระหว่าง “สิทธิ” และ “เสรีภาพ” จึงอยู่ที่ว่า “สิทธิ” เป็นอำนาจที่บุคคลมีเพื่อเรียกร้องให้ผู้อื่นกระทำการหรือละเว้นกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ในขณะที่ “เสรีภาพ” นั้นเป็นอำนาจที่บุคคลนั้นมีอยู่เหนือตนเองในการตัดสินใจกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยปราศจากการแทรกแซงหรือครอบงำจากบุคคลอื่น เสรีภาพจึงไม่ก่อให้เกิดหน้าที่ต่อบุคคลอื่นแต่อย่างใด[4]

                   หากพิจารณาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช  ๒๕๖๐ ได้มีการบัญญัติไว้ใน หมวด ๓ สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย (มาตรา ๒๕ ถึง มาตรา ๔๙) ทั้งนี้ ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ได้เปลี่ยนวิธีการเขียนใหม่ให้เป็นสากลมากขึ้น โดยวางหลักการให้ “อะไรที่ไม่ได้ห้ามไว้ในรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย สามารถทำได้และได้รับการคุ้มครอง” กล่าวคือ ได้มีการปรับปรุงหลักการจากรัฐธรรมนูญฉบับก่อน ๆ โดยเป็นการรับรองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนชาวไทยให้ครอบคลุมกว้างขึ้นกว่าเดิมจากที่เคยกำหนดให้สิทธิและเสรีภาพที่ได้รับการคุ้มครองจะมีเฉพาะที่กฎหมายบัญญัติเท่านั้น โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ได้บัญญัติให้เปิดกว้างสอดคล้องกับหลักสากล เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพอย่างเท่าเทียมกันในระบอบประชาธิปไตย ให้สามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้ทันทีไม่ต้องรอให้มีการบัญญัติกฎหมายอนุวัติการมาใช้บังคับก่อน  ทั้งนี้ ถ้าไม่ได้มีการกำหนดห้ามหรือจำกัดไว้ในรัฐธรรมนูญหรือในกฎหมายอื่นแล้ว บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพที่จะทำการนั้นได้และได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕  นอกจากนี้ ยังได้รับรองสิทธิชุมชนมากขึ้นกว่าเดิมด้วย อย่างไรก็ดี การใช้สิทธิและเสรีภาพย่อมต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้อื่น สังคม และประเทศชาติ โดยในหมวดนี้ ได้กำหนดกรอบการใช้สิทธิและเสรีภาพว่าต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ต้องไม่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และไม่ละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น และในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้กำหนดกรอบการใช้สิทธิเสรีภาพตามหลักสากล (International Covenant on Civil and Political Rights – ICCPR) ไว้ ๓ ข้อ ดังนี้[5]

                   ๑) ต้องไม่กระทบความมั่นคงปลอดภัยของชาติ

                   ๒) ต้องไม่กระทบความสงบเรียบร้อยของประชาชน

                   ๓) ต้องไม่กระทบสิทธิเสรีภาพของคนอื่น

                   ตัวอย่าง สิทธิที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เช่น สิทธิในชีวิตและร่างกายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ สิทธิส่วนบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๒ สิทธิในทรัพย์สินและการสืบมรดกตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๗ สิทธิได้รับทราบและเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะ สิทธิเสนอเรื่องราวร้องทุกข์และได้รับแจ้งผลการพิจารณาโดยรวดเร็ว หรือสิทธิฟ้องหน่วยงานของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๑ สิทธิของบุคคลหรือชุมชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๓ สิทธิของผู้บริโภคตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๖ สิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๗ สิทธิของมารดาในช่วงระหว่างก่อนและหลังการคลอดบุตร สิทธิขอบุคคลซึ่งมีอายุเกิน ๖๐ ปี และไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๘ 

                   ตัวอย่าง เสรีภาพที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เช่น เสรีภาพในชีวิตและร่างกายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๘ เสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๑ เสรีภาพในเคหสถานตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๓ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือเสรีภาพทางวิชาการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๓ เสรีภาพของสื่อมวลชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๕ เสรีภาพในการติดต่อสื่อสารถึงกันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๖ เสรีภาพในการเดินทางและการเลือกถิ่นที่อยู่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๘ เสรีภาพในการปรกอบอาชีพตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๐ เสรีภาพในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา๔๔ เสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๕ 

                   นอกจากการรองรับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕ ที่บัญญัติรับรองสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยไว้อย่างไม่จำกัดดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น การจำกัดสิทธิและเสรีภาพจะมีเฉพาะที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญหรือในกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖  จึงบัญญัติถึงเงื่อนไขที่จะตรากฎหมายจำกัดสิทธิเสรีภาพไว้ให้ชัดเจน กล่าวคือ ถ้าเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญจะกำหนดได้แต่เฉพาะตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ในกรณีที่รัฐธรรมนูญมิได้บัญญัติเงื่อนไขไว้โดยเฉพาะ โดยในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖ นี้ ได้กำหนดเงื่อนไขไว้ ๔ ประการ[6] คือ

                   (๑) ต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม

                   (๒) ไม่เพิ่มภาระหรือจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ

                   (๓) จะกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลมิได้

                   (๔) ต้องระบุเหตุผลความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพไว้ด้วย


เอกสารอ้างอิง

คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ. ความมุ่งหมายและคาอธิบายประกอบของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐.  ๒๕๖๒.

บรรเจิด สิงคะเนติ. หลักพื้นฐานเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์. พิมพ์ครั้งที่ ๕. กรุงเทพฯ : วิญญูชน, ๒๕๖๒.

วรพจน์ วิศรุตพิชญ์. รวมข้อเขียนเกี่ยวกับกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายปกครอง. กรุงเทพฯ : วิญญูชน, ๒๕๖๕.

D.D. RAPHAEL., Problems of Political Philosophy, London, Macillan press Ltd., 1976, p.115 ; Jean RIVERO, Les libertés publiques, Yome I : Les droits de I’homme, 6e édition, Paris, PUF, 1991, p.20. อ้างถึงใน วรพจน์ วิศรุตพิชญ์. รวมข้อเขียนเกี่ยวกับกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายปกครอง.  หน้า ๓๗.


[1]วรพจน์ วิศรุตพิชญ์. รวมข้อเขียนเกี่ยวกับกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายปกครอง. กรุงเทพฯ : วิญญูชน, ๒๕๖๕, หน้า  ๓๗.

[2]บรรเจิด สิงคะเนติ. หลักพื้นฐานเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์. พิมพ์ครั้งที่ ๕. กรุงเทพฯ : วิญญูชน, ๒๕๖๒, หน้า ๕๑.

[3]D.D. RAPHAEL., Problems of Political Philosophy, London, Macillan press Ltd., 1976, p.115 ; Jean RIVERO, Les libertés publiques, Yome I : Les droits de I’homme, 6e édition, Paris, PUF, 1991, p.20. อ้างถึงใน วรพจน์ วิศรุตพิชญ์, รวมข้อเขียนเกี่ยวกับกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายปกครอง,  หน้า ๓๗.

[4]บรรเจิด สิงคะเนติ, หลักพื้นฐานเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์, หน้า ๕๓.

[5]คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ. ความมุ่งหมายและคาอธิบายประกอบของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐.  ๒๕๖๒. หน้า  ๓๔ - ๓๕.

[6]คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ. ความมุ่งหมายและคาอธิบายประกอบของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐.  ๒๕๖๒. หน้า  ๓๘ - ๔๐. index.php?title=หมวดหมู่:สารานุกรม คำศัพท์ต่าง ๆ