ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อรพิน ไชยกาล"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
สร้างหน้าด้วย " '''อรพิน  ไชยกาล : ผู้แทนราษฎรสตรีคนแรก''' ผู้แต่ง : ศาสตร..."
 
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:


'''อรพิน  ไชยกาล : ผู้แทนราษฎรสตรีคนแรก'''
ผู้แต่ง : ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ผู้แต่ง : ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
----


----
'''อรพิน  ไชยกาล : ผู้แทนราษฎรสตรีคนแรก'''


          ผู้แทนราษฎรสตรีคนแรกของไทย ชื่อ อรพิน ไชยกาล นามสกุล “ไชยกาล” นี้ คนที่สนใจการบ้านการเมืองของไทยอาจคุ้นเคยอยู่บ้าง เพราะมีนักการเมืองดังระดับชาติ ตั้งแต่ยุคแรกของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ชื่อ นายเลียง  ไชยกาล ซึ่งเป็นนักการเมืองเรืองนามของจังหวัดอุบลราชธานีมาก่อนแล้ว ท่านก็คือสามีของคุณอรพิน  ไชยกาล 
        ผู้แทนราษฎรสตรีคนแรกของไทย ชื่อ อรพิน ไชยกาล นามสกุล “ไชยกาล” นี้ คนที่สนใจการบ้านการเมืองของไทยอาจคุ้นเคยอยู่บ้าง เพราะมีนักการเมืองดังระดับชาติ ตั้งแต่ยุคแรกของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ชื่อ นายเลียง  ไชยกาล ซึ่งเป็นนักการเมืองเรืองนามของจังหวัดอุบลราชธานีมาก่อนแล้ว ท่านก็คือสามีของคุณอรพิน  ไชยกาล 


สตรีไทยมีสิทธิทางการเมืองเท่ากับบุรุษมาตั้งแต่ พ.ศ. 2475 หลังมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามฯ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งก็ได้ ออกเสียงใช้สิทธิเลือกตั้งก็ได้ เมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกในประเทศไทย ใน พ.ศ. 2476 ได้มีสตรีลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งอย่างที่เมืองหลวงคือจังหวัดพระนครในวันนั้น สตรีที่ชื่อ อนงค์  บุนนาค               ได้ลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งด้วย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้งในครั้งนั้น  การเลือกตั้งผ่านมาแล้วหลายหน เวลาผ่านมา 17 ปี ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2492 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งเพิ่มเติม ปรากฏว่าหนึ่งในสองคนของผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี คือ คุณอรพิน  ไชยกาล  จากพรรคประชาชนที่มีนายเลียง  ไชยกาล เป็นหัวหน้าพรรค และท่านก็เป็นผู้แทนราษฎรสตรีคนแรกและคนเดียวในวันนั้น
สตรีไทยมีสิทธิทางการเมืองเท่ากับบุรุษมาตั้งแต่ พ.ศ. 2475 หลังมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามฯ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งก็ได้ ออกเสียงใช้สิทธิเลือกตั้งก็ได้ เมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกในประเทศไทย ใน พ.ศ. 2476 ได้มีสตรีลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งอย่างที่เมืองหลวงคือจังหวัดพระนครในวันนั้น สตรีที่ชื่อ อนงค์  บุนนาค               ได้ลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งด้วย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้งในครั้งนั้น  การเลือกตั้งผ่านมาแล้วหลายหน เวลาผ่านมา 17 ปี ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2492 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งเพิ่มเติม ปรากฏว่าหนึ่งในสองคนของผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี คือ คุณอรพิน  ไชยกาล  จากพรรคประชาชนที่มีนายเลียง  ไชยกาล เป็นหัวหน้าพรรค และท่านก็เป็นผู้แทนราษฎรสตรีคนแรกและคนเดียวในวันนั้น
บรรทัดที่ 18: บรรทัดที่ 18:
 
 


''“สมัยที่แม่มาเรียนหนังสือนั้น (พ.ศ. 2464) รถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือจากกรุงเทพฯ มาถึงนครราชสีมา (เท่านั้น) ต้องเดินทางจากอุบลราชธานีเพื่อมาต่อรถไฟ (ที่นครราชสีมา) เข้ากรุงเทพฯ มาเข้าเรียนที่เบญจมราชาลัย ระหว่างทางไม่รู้ต้องเสี่ยงต่อการเผชิญอะไรต่อมิอะไร...”''
'''“สมัยที่แม่มาเรียนหนังสือนั้น (พ.ศ. 2464) รถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือจากกรุงเทพฯ มาถึงนครราชสีมา (เท่านั้น) ต้องเดินทางจากอุบลราชธานีเพื่อมาต่อรถไฟ (ที่นครราชสีมา) เข้ากรุงเทพฯ มาเข้าเรียนที่เบญจมราชาลัย ระหว่างทางไม่รู้ต้องเสี่ยงต่อการเผชิญอะไรต่อมิอะไร...”'''


 
 
บรรทัดที่ 28: บรรทัดที่ 28:
 
 


''“...ท่านเป็นหลานสาวของตระกูลเก่าที่สืบเชื้อสายมาจากเจ้านายทางจำปาสัก และเจ้านายในอุบลราชธานีดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า การนับญาติอย่างกว้างขวางเป็นวัฒนธรรมของทางอีสาน คะแนนเสียงของนางอรพินท์ ไชยกาล จึงหนาแน่นในเขตเมือง...”''
'''“...ท่านเป็นหลานสาวของตระกูลเก่าที่สืบเชื้อสายมาจากเจ้านายทางจำปาสัก และเจ้านายในอุบลราชธานีดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า การนับญาติอย่างกว้างขวางเป็นวัฒนธรรมของทางอีสาน คะแนนเสียงของนางอรพินท์ ไชยกาล จึงหนาแน่นในเขตเมือง...”'''


 
 
บรรทัดที่ 36: บรรทัดที่ 36:
 
 


''“จึงมิต้องสงสัยว่า “หนึ่ง” ใน “งัวงามคู่” คือ อรพิน  ไชยกาล ผู้นี้เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนสูงสุดของประเทศ (สโลแกนหาเสียง                 งัวงามคู่ คือ นายเลียง  ไชยกาล และนางอรพิน  ไชยกาล  เปรียบเสมือนวัวสองตัวที่ใช้เป็นคู่ลากเกวียน ที่มีความแข็งแรงงดงามทัดเทียมกัน คือรับใช้ชาวอุบลราชธานี '''': ผู้เรียบเรียง) เมื่อ พ.ศ. 2492”''
'''“จึงมิต้องสงสัยว่า “หนึ่ง” ใน “งัวงามคู่” คือ อรพิน  ไชยกาล ผู้นี้เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนสูงสุดของประเทศ (สโลแกนหาเสียง งัวงามคู่ คือ นายเลียง  ไชยกาล และนางอรพิน  ไชยกาล  เปรียบเสมือนวัวสองตัวที่ใช้เป็นคู่ลากเกวียน ที่มีความแข็งแรงงดงามทัดเทียมกัน คือรับใช้ชาวอุบลราชธานี ': ผู้เรียบเรียง) เมื่อ พ.ศ. 2492”'''


 
 

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 15:28, 29 พฤษภาคม 2560

ผู้แต่ง : ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


อรพิน  ไชยกาล : ผู้แทนราษฎรสตรีคนแรก

        ผู้แทนราษฎรสตรีคนแรกของไทย ชื่อ อรพิน ไชยกาล นามสกุล “ไชยกาล” นี้ คนที่สนใจการบ้านการเมืองของไทยอาจคุ้นเคยอยู่บ้าง เพราะมีนักการเมืองดังระดับชาติ ตั้งแต่ยุคแรกของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ชื่อ นายเลียง  ไชยกาล ซึ่งเป็นนักการเมืองเรืองนามของจังหวัดอุบลราชธานีมาก่อนแล้ว ท่านก็คือสามีของคุณอรพิน  ไชยกาล 

สตรีไทยมีสิทธิทางการเมืองเท่ากับบุรุษมาตั้งแต่ พ.ศ. 2475 หลังมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามฯ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งก็ได้ ออกเสียงใช้สิทธิเลือกตั้งก็ได้ เมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกในประเทศไทย ใน พ.ศ. 2476 ได้มีสตรีลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งอย่างที่เมืองหลวงคือจังหวัดพระนครในวันนั้น สตรีที่ชื่อ อนงค์  บุนนาค               ได้ลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งด้วย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้งในครั้งนั้น  การเลือกตั้งผ่านมาแล้วหลายหน เวลาผ่านมา 17 ปี ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2492 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งเพิ่มเติม ปรากฏว่าหนึ่งในสองคนของผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี คือ คุณอรพิน  ไชยกาล  จากพรรคประชาชนที่มีนายเลียง  ไชยกาล เป็นหัวหน้าพรรค และท่านก็เป็นผู้แทนราษฎรสตรีคนแรกและคนเดียวในวันนั้น

คุณอรพิน  ไชยกาล ผู้มีนามสกุลเดิมว่า “คุณิตะสิน” เป็นคนเมืองอุบล เกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 มีบิดาชื่อแก้ว มารดาชื่อคูณ  ทางด้านการศึกษานั้นเป็นเด็กผู้หญิงที่มุ่งมั่นในการศึกษา จึงเป็นนักเรียนที่เรียงเก่งของจังหวัดอุบลราชธานี  ครั้นเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนนารีนุกูลที่จังหวัดอุบลราชธานี ในปี พ.ศ. 2464 จึงได้เป็น “นักเรียนทุนของ มณฑลอุบล” ได้เข้ามาเรียนวิชาครูที่โรงเรียนเบญจมราชาลัยที่พระนครในปีเดียวกัน

ปกครอง  ไชยกาล บุตรชานคนโตของท่านได้เล่าตามที่ปรากฏในหนังสือที่ระลึกวันครู พ.ศ. 2557 ว่า

 

“สมัยที่แม่มาเรียนหนังสือนั้น (พ.ศ. 2464) รถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือจากกรุงเทพฯ มาถึงนครราชสีมา (เท่านั้น) ต้องเดินทางจากอุบลราชธานีเพื่อมาต่อรถไฟ (ที่นครราชสีมา) เข้ากรุงเทพฯ มาเข้าเรียนที่เบญจมราชาลัย ระหว่างทางไม่รู้ต้องเสี่ยงต่อการเผชิญอะไรต่อมิอะไร...”

 

คุณอรพิน  คุณิตะสิน เรียนอยู่ 2 ปี ที่พระนครก็จบการศึกษาได้ประกาศนียบัตรวิชาครูกลับไปรับราชการเป็นครูที่โรงเรียนนารีนุกูล จังหวัดอุบลราชธานี ถัดมาก็ได้เป็นครูใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ ครูอรพินได้พบรักและแต่งงานกับเพื่อนครูชายชื่อเลียง  ไชยกาล จากโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช ท่านผู้นี้ต่อมาได้เป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งครั้งแรกของไทย จากจังหวัดอุบลราชธานี

ครูอรพิน  ไชยกาล เป็นครูที่เจริญก้าวหน้าในอาชีพครูเป็นอย่างดี ดังปรากฏว่าท่านได้ก่อตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูสตรีอุบลราชธานีขึ้น และได้เป็นครูใหญ่คนแรกของโรงเรียนนี้ด้วย การที่ครูอรพิน  ไชยกาล ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรนั้นน่าจะมาจากความเป็นครูของท่านส่วนหนึ่งด้วย  เพราะเป็นที่กล่าวกันว่าท่านได้รับความนับถือมากจากลูกศิษย์ และลูกศิษย์นี่เองที่ช่วยหาเสียงให้ครู สมัยนั้นยังไม่มีเรื่องราวการซื้อเสียงมาเล่าขานให้กันฟัง อย่างมากก็เป็นเรื่องใช้อำนาจและอิทธิพลทางราชการบ้าง ทางการเมืองบ้าง มีการศึกษาชีวิตของครูอรพินที่ให้ข้อมูลไว้น่าสนใจว่า

 

“...ท่านเป็นหลานสาวของตระกูลเก่าที่สืบเชื้อสายมาจากเจ้านายทางจำปาสัก และเจ้านายในอุบลราชธานีดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า การนับญาติอย่างกว้างขวางเป็นวัฒนธรรมของทางอีสาน คะแนนเสียงของนางอรพินท์ ไชยกาล จึงหนาแน่นในเขตเมือง...”

 

นอกจากนี้ยังมีข้อเขียนในหนังสือที่ระลึกวันครู พ.ศ. 2557 กล่าวถึงสองสามี-ภรรยา นายเลียงและนางอรพินท์  ไชยกาล  นักการเมืองเรืองนามไว้ในข้อเขียนนี้ว่า

 

“จึงมิต้องสงสัยว่า “หนึ่ง” ใน “งัวงามคู่” คือ อรพิน  ไชยกาล ผู้นี้เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนสูงสุดของประเทศ (สโลแกนหาเสียง งัวงามคู่ คือ นายเลียง  ไชยกาล และนางอรพิน  ไชยกาล  เปรียบเสมือนวัวสองตัวที่ใช้เป็นคู่ลากเกวียน ที่มีความแข็งแรงงดงามทัดเทียมกัน คือรับใช้ชาวอุบลราชธานี ': ผู้เรียบเรียง) เมื่อ พ.ศ. 2492”

 

เมื่อได้รับเลือกตั้งเข้าสภาครั้งแรกครูอรพิน  ไชยกาล ก็ได้ทำงานการเมืองในสภาร่วมกับสามี สมัยนั้นเป็นรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายเลียง  ไชยกาล  ได้ดีเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มาตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2491 แล้ว  และตลอดเวลาที่ นางอรพิน  ไชยกาล เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรกนี้ นายเลียง  ไชยกาล ก็ได้เปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีไปเป็นรัฐมนตรีว่าการอยู่ถึงสองกระทวง ในวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2493 ท่านพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อีกประมาณหกเดือนต่อมาท่านก็ย้ายกระทรวง มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2494  นางอรพิน  ไชยกาล พ้นตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพร้อมกับสามี เมื่อมีการยึดอำนาจในวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494

แต่เมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 นางอรพิน  ไชยกาล ก็ชนะเลือกตั้งเข้าสภาพร้อมกับสามีอีกครั้งและอยู่ได้ครบวาระ แต่หลังจากนั้นท่านก็ไม่ได้รับเลือกตั้งอีกเลย จนได้เลิกเล่นการเมืองไป ส่วน นายเลียง  ไชยกาล  ยังได้รับเลือกตั้งอีกสองครั้งติดกัน ในปี 2500 จากนั้นนายเลียง    ก็หมดบทบาททางการเมือง

นางอรพิน  ไชยกาล ได้มีชีวิตอยู่ดูการเมืองไทย จนถึงแก่กรรมไปในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2539