ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หลัก 6 ประการของคณะราษฎร"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
<p>ผู้เรียบเรียง&nbsp;: นายเอกวัฒน์&nbsp; จิตสำรวย</p>


<p>ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ&nbsp;: นายจเร พันธุ์เปรื่อง</p>
ผู้เรียบเรียง&nbsp;: นายเอกวัฒน์&nbsp; จิตสำรวย


<hr />
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ&nbsp;: นายจเร พันธุ์เปรื่อง
<h1>ความหมาย หลัก 6 ประการของคณะราษฎ&#39;<i>ร<b>[1]&#39;</b></i></h1>


<p>หลัก 6 ประการของคณะราษฎร คือ เนื้อหาส่วนหนึ่งตามประกาศคณะราษฎร ถือเป็นนโยบายในการเปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎรจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยของประเทศสยาม ซึ่งนำโดยนายทหารหัวก้าวหน้าและกลุ่มนักเรียนนอกกลุ่มหนึ่ง โดยคณะราษฎรไม่มีการแถลงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินต่อสภาผู้แทนราษฎร แต่ถือเอาหลัก 6 ประการของคณะราษฎรให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใช้ปฏิญาณตนต่อที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่ และถือเป็นนโยบายของรัฐบาลในการปฏิรูปประเทศด้วย</p>
----


<h2>ความเป็นมาของหลัก 6 ประการ&#39;<i><b>[2]&#39;</b></i></h2>
'''ความหมาย หลัก6 ประการของคณะราษฎร[[#_ftn1|'''[1]''']]'''


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; หลัก 6 ประการ มีที่มาจากการปฏิวัติโดยคณะราษฎร ในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 เนื่องจากสาเหตุ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<br />
หลัก 6 ประการของคณะราษฎร คือ เนื้อหาส่วนหนึ่งตาม[http://th.wikisource.org/wiki/ประกาศคณะราษฎร ประกาศคณะราษฎร ]ถือเป็นนโยบายในการเปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎรจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็น[http://th.wikipedia.org/wiki/ระบอบประชาธิปไตย ระบอบประชาธิปไตย]ของ[http://th.wikipedia.org/wiki/ประเทศสยาม ประเทศสยาม] ซึ่งนำโดยนายทหารหัวก้าวหน้าและกลุ่มนักเรียนนอกกลุ่มหนึ่ง โดยคณะราษฎรไม่มีการแถลงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินต่อสภาผู้แทนราษฎร แต่ถือเอาหลัก 6 ประการของคณะราษฎรให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใช้ปฏิญาณตนต่อที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่ และถือเป็นนโยบายของรัฐบาลในการปฏิรูปประเทศด้วย
<b>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; </b>1.&nbsp; เศรษฐกิจตกต่ำ ในระหว่าง พ.. 2472 - 2474 &nbsp;เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก สินค้าไทยโดยเฉพาะข้าวราคาตกต่ำ เกิดภาวะขาดแคลนทั่วประเทศ ประกอบกับประเทศไทยมีรายจ่ายเกินกว่ารายได้ต่อเนื่องมาหลายปี ทำให้ฐานะการเงินการคลังของรัฐบาลอยู่ในสภาพคลอนแคลน&nbsp;ซึ่งรัฐบาลในสมัยรัชกาลที่ 7 พยายามแก้ไขสถานะการคลังหลายวิธี เช่น ลาออกจากองค์การมาตรฐานทองคำ กำหนดค่าเงินบาทขึ้นใหม่ แต่ที่สำคัญซึ่งได้รับความเดือดร้อนกันทั่วไป คือ การเพิ่มภาษีราษฎรและการปลดข้าราชการออก เพื่อรักษาดุลยภาพทางการเงิน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ข้าราชการเป็นอันมาก</p>


<p><b>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; </b>2.&nbsp; ความขัดแย้งระหว่างสามัญชนกับพระราชวงศ์ สามัญชนมีการศึกษาสูงขึ้นเนื่องจากจบจากต่างประเทศและกลับเข้ามารับราชการกันมาก แต่บรรดาเจ้านายพระราชวงศ์บางพระองค์ทรงไม่สามารถปรับพระองค์ได้ยังทรงถือเป็นข้าหรือบ่าวอยู่ตามเดิม ทำให้สามัญชนที่มีความรู้ความสามารถเกิดน้อยเนื้อต่ำใจ</p>
'''ความเป็นมาของหลัก 6 ประการ[[#_ftn2|'''[2]''']]'''


<p><b>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; </b>3.&nbsp; แนวคิดที่ได้รับจากตะวันตก ข้าราชการที่ได้รับการศึกษาตามแบบตะวันตกต้องการให้มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย</p>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; หลัก 6 ประการ มีที่มาจากการปฏิวัติโดยคณะราษฎร ในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 เนื่องจากสาเหตุ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<br/> '''&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; '''1.&nbsp; เศรษฐกิจตกต่ำ ในระหว่าง พ.ศ. 2472 - 2474 &nbsp;เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก สินค้าไทยโดยเฉพาะข้าวราคาตกต่ำ เกิดภาวะขาดแคลนทั่วประเทศ ประกอบกับประเทศไทยมีรายจ่ายเกินกว่ารายได้ต่อเนื่องมาหลายปี ทำให้ฐานะการเงินการคลังของรัฐบาลอยู่ในสภาพคลอนแคลน&nbsp;ซึ่งรัฐบาลในสมัยรัชกาลที่ 7 พยายามแก้ไขสถานะการคลังหลายวิธี เช่น ลาออกจากองค์การมาตรฐานทองคำ กำหนดค่าเงินบาทขึ้นใหม่ แต่ที่สำคัญซึ่งได้รับความเดือดร้อนกันทั่วไป คือ การเพิ่มภาษีราษฎรและการปลดข้าราชการออก เพื่อรักษาดุลยภาพทางการเงิน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ข้าราชการเป็นอันมาก


<p><b>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; </b>4.&nbsp; การประวิงเวลาพระราชทานรัฐธรรมนูญในวันที่ 6 เมษายน 2475 &nbsp;การที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 มิอาจพระราชทานรัฐธรรมนูญในโอกาสสมโภชกรุงครบรอบ 150 ปี ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2475 เพราะได้รับการทัดทานจากคณะอภิรัฐมนตรี เป็นการเร่งรัดให้มีการปฏิวัติโดยเร็วยิ่งขึ้น เพราะข้าราชการที่มีความคิดก้าวหน้าเห็นว่า หนทางที่จะได้รับพระราชทานรัฐธรรมนูญ โดยไม่ใช้กำลังบังคับนั้นไม่มีแล้ว</p>
'''&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; '''2.&nbsp; ความขัดแย้งระหว่างสามัญชนกับพระราชวงศ์ สามัญชนมีการศึกษาสูงขึ้นเนื่องจากจบจากต่างประเทศและกลับเข้ามารับราชการกันมาก แต่บรรดาเจ้านายพระราชวงศ์บางพระองค์ทรงไม่สามารถปรับพระองค์ได้ยังทรงถือเป็นข้าหรือบ่าวอยู่ตามเดิม ทำให้สามัญชนที่มีความรู้ความสามารถเกิดน้อยเนื้อต่ำใจ


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; การปฏิวัติริเริ่มโดยกลุ่มนักเรียนไทยในฝรั่งเศส ผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญตั้งแต่ต้น ได้แก่ นายปรีดี พนมยงค์ กับ ร้อยโทแปลก ขีตตะสังคะ เมื่อบุคคลเหล่านี้กลับประเทศไทย ก็รวบรวมผู้คนซึ่งมีความคิดอย่างเดียวกัน &nbsp;โดยนายปรีดี&nbsp;พนมยงค์&nbsp;ซึ่งได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงประดิษฐ์มนูธรรม เป็นผู้ดำเนินการด้านพลเรือน และร้อยโทแปลก&nbsp;ขีตตะสังคะ ซึ่งได้เลื่อนยศมีบรรดาศักดิ์เป็นพันตรีหลวงพิบูลสงคราม เป็นผู้ดำเนินการ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ด้านทหาร เมื่อรวบรวมผู้คนได้จำนวนมากพอสมควรจึงตั้งชื่อ&nbsp;คณะปฏิวัติว่า คณะราษฎร มีพันเอกพระยาพหล&nbsp;&nbsp;&nbsp; พลพยุหเสนา (พจน์&nbsp;พหลโยธิน) เป็นหัวหน้า พันเอกพระยาทรงสุรเดช (เทพ พันธุมเสน) พันเอกพระยาฤทธิอาคเนย์ (สละ&nbsp;เอมะศิริ) และพันโทพระประสาทพิทยยุทธ (วัน&nbsp; ชูถิ่น) เป็นรองหัวหน้า การปฏิวัติเริ่มในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ขณะที่รัชกาลที่ 7 ทรงแปรพระราชฐานไปประทับที่พระราชวังไกลกังวล &nbsp;&nbsp;&nbsp;หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์&nbsp;โดยกลุ่มผู้ก่อการอ้างกับกองทหารต่างๆ ว่าเป็นการซ้อมรบยุทธวิธีอย่างใหม่ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อมาถึงพร้อมกันจึงได้ประกาศว่าเป็นการปฏิวัติ หลังจากพระยาพหลพลพยุหเสนาอ่านประกาศแล้วจึงส่งกำลังเข้าควบคุมสถานที่สำคัญๆ ทางราชการในกรุงเทพฯ และแยกย้ายกันไปถวายอารักขา (ควบคุม) พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงและบุคคลสำคัญเพื่อเป็นตัวประกันสำหรับต่อรอง เช่น จอมพลสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์&nbsp;&nbsp; กรมพระนครสวรรค์วรพินิต&nbsp;ประธานอภิรัฐมนตรีสภา และเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ขณะนั้นสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรฯ ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการพระนครอยู่พระองค์ท่านทรงตัดสินพระทัยไม่ใช้กำลังโต้ตอบคณะราษฎรให้เกิดการเสียเลือดเนื้อขึ้นและทรงยินยอมออกแถลงการณ์ให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ระหว่างนั้น&nbsp; ทางฝ่ายคณะราษฎรได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงจุดประสงค์ในการเปลี่ยนแปลงการปกครองให้ประชาชนทราบ และได้แถลงหลัก 6 ประการ อันเป็นนโยบายของคณะราษฎรที่จะนำมาใช้ในการปฏิรูปประเทศ ซึ่งประกอบด้วย</p>
'''&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; '''3.&nbsp; แนวคิดที่ได้รับจากตะวันตก ข้าราชการที่ได้รับการศึกษาตามแบบตะวันตกต้องการให้มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย


<p>1.&nbsp; หลักเอกราช&nbsp;<br />
'''&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; '''4.&nbsp; การประวิงเวลาพระราชทานรัฐธรรมนูญในวันที่ 6 เมษายน 2475 &nbsp;การที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 มิอาจพระราชทานรัฐธรรมนูญในโอกาสสมโภชกรุงครบรอบ 150 ปี ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2475 เพราะได้รับการทัดทานจากคณะอภิรัฐมนตรี เป็นการเร่งรัดให้มีการปฏิวัติโดยเร็วยิ่งขึ้น เพราะข้าราชการที่มีความคิดก้าวหน้าเห็นว่า หนทางที่จะได้รับพระราชทานรัฐธรรมนูญ โดยไม่ใช้กำลังบังคับนั้นไม่มีแล้ว
2.&nbsp; หลักความปลอดภัย<br />
3.&nbsp; หลักเศรษฐกิจ</p>


<p>4.&nbsp; หลักเสมอภาค<br />
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; การปฏิวัติริเริ่มโดยกลุ่มนักเรียนไทยในฝรั่งเศส ผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญตั้งแต่ต้น ได้แก่ นายปรีดี พนมยงค์ กับ ร้อยโทแปลก ขีตตะสังคะ เมื่อบุคคลเหล่านี้กลับประเทศไทย ก็รวบรวมผู้คนซึ่งมีความคิดอย่างเดียวกัน &nbsp;โดยนายปรีดี&nbsp;พนมยงค์&nbsp;ซึ่งได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงประดิษฐ์มนูธรรม เป็นผู้ดำเนินการด้านพลเรือน และร้อยโทแปลก&nbsp;ขีตตะสังคะ ซึ่งได้เลื่อนยศมีบรรดาศักดิ์เป็นพันตรีหลวงพิบูลสงคราม เป็นผู้ดำเนินการ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ด้านทหาร เมื่อรวบรวมผู้คนได้จำนวนมากพอสมควรจึงตั้งชื่อ&nbsp;คณะปฏิวัติว่า คณะราษฎร มีพันเอกพระยาพหล&nbsp;&nbsp;&nbsp; พลพยุหเสนา (พจน์&nbsp;พหลโยธิน) เป็นหัวหน้า พันเอกพระยาทรงสุรเดช (เทพ พันธุมเสน) พันเอกพระยาฤทธิอาคเนย์ (สละ&nbsp;เอมะศิริ) และพันโทพระประสาทพิทยยุทธ (วัน&nbsp; ชูถิ่น) เป็นรองหัวหน้า การปฏิวัติเริ่มในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ขณะที่รัชกาลที่ 7 ทรงแปรพระราชฐานไปประทับที่พระราชวังไกลกังวล &nbsp;&nbsp;&nbsp;หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์&nbsp;โดยกลุ่มผู้ก่อการอ้างกับกองทหารต่างๆ ว่าเป็นการซ้อมรบยุทธวิธีอย่างใหม่ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อมาถึงพร้อมกันจึงได้ประกาศว่าเป็นการปฏิวัติ หลังจากพระยาพหลพลพยุหเสนาอ่านประกาศแล้วจึงส่งกำลังเข้าควบคุมสถานที่สำคัญๆ ทางราชการในกรุงเทพฯ และแยกย้ายกันไปถวายอารักขา (ควบคุม) พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงและบุคคลสำคัญเพื่อเป็นตัวประกันสำหรับต่อรอง เช่น จอมพลสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์&nbsp;&nbsp; กรมพระนครสวรรค์วรพินิต&nbsp;ประธานอภิรัฐมนตรีสภา และเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ขณะนั้นสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรฯ ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการพระนครอยู่พระองค์ท่านทรงตัดสินพระทัยไม่ใช้กำลังโต้ตอบคณะราษฎรให้เกิดการเสียเลือดเนื้อขึ้นและทรงยินยอมออกแถลงการณ์ให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ระหว่างนั้น&nbsp; ทางฝ่ายคณะราษฎรได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงจุดประสงค์ในการเปลี่ยนแปลงการปกครองให้ประชาชนทราบ และได้แถลงหลัก 6 ประการ อันเป็นนโยบายของคณะราษฎรที่จะนำมาใช้ในการปฏิรูปประเทศ ซึ่งประกอบด้วย
5.&nbsp; หลักเสรีภาพ<br />
6.&nbsp; หลักการศึกษา</p>


<h1>สาระสำคัญของหลัก 6 ประการ&#39;<i><b>[3]&#39;</b></i></h1>
1.&nbsp; หลักเอกราช&nbsp;<br/> 2.&nbsp; หลักความปลอดภัย<br/> 3.&nbsp; หลักเศรษฐกิจ


<p>สาระสำคัญของหลัก 6 ประการของคณะราษฎร ประกอบด้วย</p>
4.&nbsp; หลักเสมอภาค<br/> 5.&nbsp; หลักเสรีภาพ<br/> 6.&nbsp; หลักการศึกษา


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 1.&nbsp; หลักเอกราช จะรักษาความเป็นเอกราชทั้งหลาย เช่น เอกราชในทางการเมือง ในทางการศาล ในทางเศรษฐกิจของประเทศไว้ให้มั่นคง</p>
''สาระสำคัญของหลัก '''''6 ประการ[[#_ftn3|'''[3]''']]'''


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 2.&nbsp; หลักความปลอดภัย จะรักษาความปลอดภัยในประเทศ ให้การประทุษร้ายต่อกันลดน้อยลงให้มาก และสร้างความสามัคคีของคนในชาติ</p>
สาระสำคัญของหลัก 6 ประการของคณะราษฎร ประกอบด้วย


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 3.&nbsp; หลักเศรษฐกิจ จะบำรุงความสุขสมบูรณ์ในทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลใหม่จะหางานให้ราษฎรทุกคนทำ จะวางโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก</p>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 1.&nbsp; หลักเอกราช จะรักษาความเป็นเอกราชทั้งหลาย เช่น เอกราชในทางการเมือง ในทางการศาล ในทางเศรษฐกิจของประเทศไว้ให้มั่นคง


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 4.&nbsp; หลักเสมอภาค จะให้ราษฎรมีสิทธิเสมอหน้ากัน ไม่ให้ผู้ใดมีสิทธิเหนือผู้อื่น</p>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 2.&nbsp; หลักความปลอดภัย จะรักษาความปลอดภัยในประเทศ ให้การประทุษร้ายต่อกันลดน้อยลงให้มาก และสร้างความสามัคคีของคนในชาติ


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 5.&nbsp; หลักเสรีภาพ จะให้ราษฎรมีอิสระที่จะใช้สิทธิ ผู้ใดจะบังคับมิได้</p>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 3.&nbsp; หลักเศรษฐกิจ จะบำรุงความสุขสมบูรณ์ในทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลใหม่จะหางานให้ราษฎรทุกคนทำ จะวางโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 6.&nbsp; หลักการศึกษา &nbsp;จะให้การศึกษาแก่ราษฎรอย่างทั่วถึง</p>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 4.&nbsp; หลักเสมอภาค จะให้ราษฎรมีสิทธิเสมอหน้ากัน ไม่ให้ผู้ใดมีสิทธิเหนือผู้อื่น


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; อย่างไรก็ตาม เบื้องหลัง หลัก 6 ประการของคณะราษฎรนั้น มีแนวคิดหรืออุดมคติที่คณะราษฎรได้ประชุมปรึกษาหารือซึ่งได้ข้อสรุปร่วมกันซึ่งมีนัยสำคัญแฝงอยู่ แต่มิได้แถลงให้ประชาชนทราบ มีใจความสำคัญคือ ต้องมีพระเจ้าแผ่นดินตลอดไป ต้องทำเพื่อประชาธิปไตย ต้องเคารพความเห็นซึ่งกันและกัน ต้องมีความเห็นอันเที่ยงตรง &nbsp;ต้องทำเพื่อมุ่งจรรโลงประเทศให้ก้าวหน้า ต้องไม่ทรยศต่อประเทศชาติ ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ต้องไม่เย่อหยิ่งลืมตัว ต้องมีความประพฤติดี และต้องรักษาหน้าที่โดยเด็ดขาดเที่ยงตรง[4]</p>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 5.&nbsp; หลักเสรีภาพ จะให้ราษฎรมีอิสระที่จะใช้สิทธิ ผู้ใดจะบังคับมิได้


<h1><b>การนำมาปรับใช้เพื่อปฏิรูปประเทศของคณะราษฎร&#39;<i>[5]&#39;</i></b></h1>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 6.&nbsp; หลักการศึกษา &nbsp;จะให้การศึกษาแก่ราษฎรอย่างทั่วถึง


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; หลังจากที่คณะราษฎรได้ประกาศหลัก 6 ประการ เพื่อปรับใช้เป็นแนวทางในการปฏิรูปประเทศ ทำให้หน้าประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองไทยในช่วงนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปหลายด้าน คือ</p>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; อย่างไรก็ตาม เบื้องหลัง หลัก 6 ประการของคณะราษฎรนั้น มีแนวคิดหรืออุดมคติที่คณะราษฎรได้ประชุมปรึกษาหารือซึ่งได้ข้อสรุปร่วมกันซึ่งมีนัยสำคัญแฝงอยู่ แต่มิได้แถลงให้ประชาชนทราบ มีใจความสำคัญคือ ต้องมีพระเจ้าแผ่นดินตลอดไป ต้องทำเพื่อประชาธิปไตย ต้องเคารพความเห็นซึ่งกันและกัน ต้องมีความเห็นอันเที่ยงตรง &nbsp;ต้องทำเพื่อมุ่งจรรโลงประเทศให้ก้าวหน้า ต้องไม่ทรยศต่อประเทศชาติ ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ต้องไม่เย่อหยิ่งลืมตัว ต้องมีความประพฤติดี และต้องรักษาหน้าที่โดยเด็ดขาดเที่ยงตรง[[#_ftn4|[4]]]


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 1.&nbsp;&nbsp;&nbsp; ด้านอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน โดยกำหนดให้ประชาชนมีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร โดยสภาผู้แทน&nbsp;&nbsp;&nbsp; ราษฎรสามารถออกกฎหมายได้ เป็นต้น</p>
&nbsp;


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 2.&nbsp; ด้านเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยกำหนดและส่งเสริมให้ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้งและให้ประชาชนตั้งพรรคการเมืองได้เป็นครั้งแรก</p>
'''การนำมาปรับใช้เพื่อปฏิรูปประเทศของคณะราษฎร[[#_ftn5|'''[5]''']]'''


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 3.&nbsp; ด้านวางรากฐานในเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค มีการเผยแพร่อุดมการณ์ประชาธิปไตยแก่ประชาชนอย่างกว้างขวาง เช่น สร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กำหนดให้มีพานวางรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประชาชนทำความเคารพ ให้มีการท่องรัฐธรรมนูญในโรงเรียน ส่งเสริมการศึกษาแก่ประชาชนในวงกว้างซึ่งแต่เดิมการศึกษามักกระจุกแต่ในชนชั้นสูง โดยมีการตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมืองขึ้น</p>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; หลังจากที่คณะราษฎรได้ประกาศหลัก 6 ประการ เพื่อปรับใช้เป็นแนวทางในการปฏิรูปประเทศ ทำให้หน้าประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองไทยในช่วงนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปหลายด้าน คือ


<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 4.&nbsp; ด้านเศรษฐกิจ มีกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการยกเลิกภาษีอากรที่เก็บจากชาวไร่ชาวนา เช่นยกเลิกภาษีเกลือ ภาษีอากรสวน ภาษีต้นตาลโตนด ลดภาษีเก็บเงินอากรสวนใหญ่ ส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์ มีการยกเลิกสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับต่างประเทศ เป็นต้น</p>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 1.&nbsp;&nbsp;&nbsp; ด้านอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน โดยกำหนดให้ประชาชนมีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร โดยสภาผู้แทน&nbsp;&nbsp;&nbsp; ราษฎรสามารถออกกฎหมายได้ เป็นต้น


<h1><b>หนังสือแนะนำให้อ่านต่อ</b></h1>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 2.&nbsp; ด้านเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยกำหนดและส่งเสริมให้ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้งและให้ประชาชนตั้งพรรคการเมืองได้เป็นครั้งแรก


<p>ณรงค์ นุ่นทอง. <b>พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับการพัฒนาการเมืองไปสู่ระบบประชาธิป&#39;</b><i>ไตย&#39;</i>.<i>&nbsp;</i>เอกสารวิชาการส่วนบุคคล. สถาบันพระปกเกล้า, 2543.</p>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 3.&nbsp; ด้านวางรากฐานในเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค มีการเผยแพร่อุดมการณ์ประชาธิปไตยแก่ประชาชนอย่างกว้างขวาง เช่น สร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กำหนดให้มีพานวางรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประชาชนทำความเคารพ ให้มีการท่องรัฐธรรมนูญในโรงเรียน ส่งเสริมการศึกษาแก่ประชาชนในวงกว้างซึ่งแต่เดิมการศึกษามักกระจุกแต่ในชนชั้นสูง โดยมีการตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมืองขึ้น


<p>อาทร อยู่สมบูรณ์. <b>คณะราษฎร์กับกระบวนการสร้างประชาธิปไตย</b>. วิทยานิพนธ์คณะรัฐศาสตร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2541.</p>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 4.&nbsp; ด้านเศรษฐกิจ มีกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการยกเลิกภาษีอากรที่เก็บจากชาวไร่ชาวนา เช่นยกเลิกภาษีเกลือ ภาษีอากรสวน ภาษีต้นตาลโตนด ลดภาษีเก็บเงินอากรสวนใหญ่ ส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์ มีการยกเลิกสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับต่างประเทศ เป็นต้น


<h1><b>บรรณานุกรม</b></h1>
&nbsp;


<p>เกียรติชัย พงษ์พาณิชย์. &#39;<i>ปฏิวัติ &#39;</i><b>2475. </b>พระนคร&nbsp;: บริษัทผดุงพิทยา, 2514.</p>
'''หนังสือแนะนำให้อ่านต่อ'''&nbsp;&nbsp;


<p>อาทร อยู่สมบูรณ์. <b>&ldquo;คณะราษฎร์กับกระบวนการสร้างประชาธิปไตย&rdquo;</b>. วิทยานิพนธ์คณะรัฐศาสตร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2541.</p>
ณรงค์ นุ่นทอง. '''พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับการพัฒนาการเมืองไปสู่ระบบประชาธิป''''''ไตย'''.


<p>ประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ครูอังคณา ณ พิกุล. <b>การเมืองการปกครองสมัยรัตนโกสินทร์ยุคหลัง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; เปลี่ยนแปลงการปกครอง </b>(ออนไลน์). <a alt="http://www.thaigoodview.com/library/contest2553" href="http://www.thaigoodview.com/library/contest2553" title="http://www.thaigoodview.com/library/contest2553">http://www.thaigoodview.com/library/contest2553</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; /type2/social03/28/02con03.htm</p>
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; เอกสารวิชาการส่วนบุคคล. สถาบันพระปกเกล้า, 2543.


<p>มูลนิธิวิกิพีเดีย. 2557. <b>หลัก 6 ประการของคณะราษฎร์ </b>(ออนไลน์). วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; <a alt="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81_6_%" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81_6_%" title="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81_6_%">http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81_6_%</a>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%A3</p>
อาทร อยู่สมบูรณ์. '''คณะราษฎร์กับกระบวนการสร้างประชาธิปไตย'''. วิทยานิพนธ์คณะรัฐศาสตร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2541.


<h1>อ้างอิง</h1>
&nbsp;


<div>
'''บรรณานุกรม'''
<hr />
 
<div id="ftn1">
เกียรติชัย พงษ์พาณิชย์. '''ปฏิวัติ ''''''2475. '''พระนคร&nbsp;: บริษัทผดุงพิทยา, 2514.
<p>[1] มูลนิธิวิกิพีเดีย. 2557. <b>หลัก 6 ประการของคณะราษฎร์ </b>(ออนไลน์). วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี <a alt="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81_6_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%A3" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81_6_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%A3" title="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81_6_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%A3">http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81_6_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%A3</a> (สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2557)</p>
</div>


<div id="ftn2">
อาทร อยู่สมบูรณ์. '''“คณะราษฎร์กับกระบวนการสร้างประชาธิปไตย”'''. วิทยานิพนธ์คณะรัฐศาสตร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2541.
<p>[2] ประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ครูอังคณา ณ พิกุล. <b>การเมืองการปกครองสมัยรัตนโกสินทร์ยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง </b>(ออนไลน์). <a alt="http://www.thaigoodview.com/library/contest2553" href="http://www.thaigoodview.com/library/contest2553" title="http://www.thaigoodview.com/library/contest2553">http://www.thaigoodview.com/library/contest2553</a> /type2/social03/28/02con03.htm (สืบค้นเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2557)</p>
</div>


<div id="ftn3">
ประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ครูอังคณา ณ พิกุล. '''การเมืองการปกครองสมัยรัตนโกสินทร์ยุคหลัง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; เปลี่ยนแปลงการปกครอง '''(ออนไลน์). [http://www.thaigoodview.com/library/contest2553 http://www.thaigoodview.com/library/contest2553] &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; /type2/social03/28/02con03.htm
<p>[3] อาทร อยู่สมบูรณ์. <b>คณะราษฎร์กับกระบวนการสร้างประชาธิปไตย</b>. วิทยานิพนธ์คณะรัฐศาสตร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2541. หน้า 55 - 56</p>
</div>


<div id="ftn4">
มูลนิธิวิกิพีเดีย. 2557. '''หลัก 6 ประการของคณะราษฎร์ '''(ออนไลน์). วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; [http://th.wikipedia.org http://th.wikipedia.org]/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81_6_%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%A3
<p>[4] เกียรติชัย พงษ์พาณิชย์. <b>ปฏิวัติ &#39;</b><i>2475&#39;</i>. พระนคร&nbsp;: บริษัทผดุงพิทยา, 2514. หน้า 109 &ndash; 110.</p>
</div>


<div id="ftn5">
&nbsp;
<p>[5] อ้างแล้วในเชิงอรรถที่ 3. หน้า 88 &ndash; 100.</p>
</div>
</div>


<p><span _fcknotitle="true" class="fck_mw_category" contenteditable="false">รัฐสภา</span></p>
อ้างอิง&nbsp;
<div>
----
<div id="ftn1">
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; [1] มูลนิธิวิกิพีเดีย. 2557. '''หลัก 6 ประการของคณะราษฎร์ '''(ออนไลน์). วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี [http://th.wikipedia.org http://th.wikipedia.org]/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81_6_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%A3 (สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2557)
</div> <div id="ftn2">
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; [2] ประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ครูอังคณา ณ พิกุล. '''การเมืองการปกครองสมัยรัตนโกสินทร์ยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง '''(ออนไลน์). [http://www.thaigoodview.com/library/contest2553 http://www.thaigoodview.com/library/contest2553] /type2/social03/28/02con03.htm (สืบค้นเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2557)
</div> <div id="ftn3">
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; [3] อาทร อยู่สมบูรณ์. '''คณะราษฎร์กับกระบวนการสร้างประชาธิปไตย'''. วิทยานิพนธ์คณะรัฐศาสตร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2541. หน้า 55 - 56
</div> <div id="ftn4">
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp; [4] เกียรติชัย พงษ์พาณิชย์. '''ปฏิวัติ ''''''2475'''. พระนคร&nbsp;: บริษัทผดุงพิทยา, 2514. หน้า 109 – 110.
</div> <div id="ftn5">
&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; [5] อ้างแล้วในเชิงอรรถที่ 3. หน้า 88 – 100.
</div> </div>  
[[Category:รัฐสภา]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 14:45, 25 พฤษภาคม 2560

ผู้เรียบเรียง : นายเอกวัฒน์  จิตสำรวย

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : นายจเร พันธุ์เปรื่อง


ความหมาย หลัก6 ประการของคณะราษฎร[1]

หลัก 6 ประการของคณะราษฎร คือ เนื้อหาส่วนหนึ่งตามประกาศคณะราษฎร ถือเป็นนโยบายในการเปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎรจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยของประเทศสยาม ซึ่งนำโดยนายทหารหัวก้าวหน้าและกลุ่มนักเรียนนอกกลุ่มหนึ่ง โดยคณะราษฎรไม่มีการแถลงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินต่อสภาผู้แทนราษฎร แต่ถือเอาหลัก 6 ประการของคณะราษฎรให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใช้ปฏิญาณตนต่อที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่ และถือเป็นนโยบายของรัฐบาลในการปฏิรูปประเทศด้วย

ความเป็นมาของหลัก 6 ประการ[2]

        หลัก 6 ประการ มีที่มาจากการปฏิวัติโดยคณะราษฎร ในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 เนื่องจากสาเหตุ       
         1.  เศรษฐกิจตกต่ำ ในระหว่าง พ.ศ. 2472 - 2474  เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก สินค้าไทยโดยเฉพาะข้าวราคาตกต่ำ เกิดภาวะขาดแคลนทั่วประเทศ ประกอบกับประเทศไทยมีรายจ่ายเกินกว่ารายได้ต่อเนื่องมาหลายปี ทำให้ฐานะการเงินการคลังของรัฐบาลอยู่ในสภาพคลอนแคลน ซึ่งรัฐบาลในสมัยรัชกาลที่ 7 พยายามแก้ไขสถานะการคลังหลายวิธี เช่น ลาออกจากองค์การมาตรฐานทองคำ กำหนดค่าเงินบาทขึ้นใหม่ แต่ที่สำคัญซึ่งได้รับความเดือดร้อนกันทั่วไป คือ การเพิ่มภาษีราษฎรและการปลดข้าราชการออก เพื่อรักษาดุลยภาพทางการเงิน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ข้าราชการเป็นอันมาก

        2.  ความขัดแย้งระหว่างสามัญชนกับพระราชวงศ์ สามัญชนมีการศึกษาสูงขึ้นเนื่องจากจบจากต่างประเทศและกลับเข้ามารับราชการกันมาก แต่บรรดาเจ้านายพระราชวงศ์บางพระองค์ทรงไม่สามารถปรับพระองค์ได้ยังทรงถือเป็นข้าหรือบ่าวอยู่ตามเดิม ทำให้สามัญชนที่มีความรู้ความสามารถเกิดน้อยเนื้อต่ำใจ

        3.  แนวคิดที่ได้รับจากตะวันตก ข้าราชการที่ได้รับการศึกษาตามแบบตะวันตกต้องการให้มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

         4.  การประวิงเวลาพระราชทานรัฐธรรมนูญในวันที่ 6 เมษายน 2475  การที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 มิอาจพระราชทานรัฐธรรมนูญในโอกาสสมโภชกรุงครบรอบ 150 ปี ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2475 เพราะได้รับการทัดทานจากคณะอภิรัฐมนตรี เป็นการเร่งรัดให้มีการปฏิวัติโดยเร็วยิ่งขึ้น เพราะข้าราชการที่มีความคิดก้าวหน้าเห็นว่า หนทางที่จะได้รับพระราชทานรัฐธรรมนูญ โดยไม่ใช้กำลังบังคับนั้นไม่มีแล้ว

         การปฏิวัติริเริ่มโดยกลุ่มนักเรียนไทยในฝรั่งเศส ผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญตั้งแต่ต้น ได้แก่ นายปรีดี พนมยงค์ กับ ร้อยโทแปลก ขีตตะสังคะ เมื่อบุคคลเหล่านี้กลับประเทศไทย ก็รวบรวมผู้คนซึ่งมีความคิดอย่างเดียวกัน  โดยนายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงประดิษฐ์มนูธรรม เป็นผู้ดำเนินการด้านพลเรือน และร้อยโทแปลก ขีตตะสังคะ ซึ่งได้เลื่อนยศมีบรรดาศักดิ์เป็นพันตรีหลวงพิบูลสงคราม เป็นผู้ดำเนินการ       ด้านทหาร เมื่อรวบรวมผู้คนได้จำนวนมากพอสมควรจึงตั้งชื่อ คณะปฏิวัติว่า คณะราษฎร มีพันเอกพระยาพหล    พลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) เป็นหัวหน้า พันเอกพระยาทรงสุรเดช (เทพ พันธุมเสน) พันเอกพระยาฤทธิอาคเนย์ (สละ เอมะศิริ) และพันโทพระประสาทพิทยยุทธ (วัน  ชูถิ่น) เป็นรองหัวหน้า การปฏิวัติเริ่มในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ขณะที่รัชกาลที่ 7 ทรงแปรพระราชฐานไปประทับที่พระราชวังไกลกังวล    หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยกลุ่มผู้ก่อการอ้างกับกองทหารต่างๆ ว่าเป็นการซ้อมรบยุทธวิธีอย่างใหม่      เมื่อมาถึงพร้อมกันจึงได้ประกาศว่าเป็นการปฏิวัติ หลังจากพระยาพหลพลพยุหเสนาอ่านประกาศแล้วจึงส่งกำลังเข้าควบคุมสถานที่สำคัญๆ ทางราชการในกรุงเทพฯ และแยกย้ายกันไปถวายอารักขา (ควบคุม) พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงและบุคคลสำคัญเพื่อเป็นตัวประกันสำหรับต่อรอง เช่น จอมพลสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์   กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ประธานอภิรัฐมนตรีสภา และเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ขณะนั้นสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรฯ ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการพระนครอยู่พระองค์ท่านทรงตัดสินพระทัยไม่ใช้กำลังโต้ตอบคณะราษฎรให้เกิดการเสียเลือดเนื้อขึ้นและทรงยินยอมออกแถลงการณ์ให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ระหว่างนั้น  ทางฝ่ายคณะราษฎรได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงจุดประสงค์ในการเปลี่ยนแปลงการปกครองให้ประชาชนทราบ และได้แถลงหลัก 6 ประการ อันเป็นนโยบายของคณะราษฎรที่จะนำมาใช้ในการปฏิรูปประเทศ ซึ่งประกอบด้วย

1.  หลักเอกราช 
2.  หลักความปลอดภัย
3.  หลักเศรษฐกิจ

4.  หลักเสมอภาค
5.  หลักเสรีภาพ
6.  หลักการศึกษา

สาระสำคัญของหลัก 6 ประการ[3]

สาระสำคัญของหลัก 6 ประการของคณะราษฎร ประกอบด้วย

         1.  หลักเอกราช จะรักษาความเป็นเอกราชทั้งหลาย เช่น เอกราชในทางการเมือง ในทางการศาล ในทางเศรษฐกิจของประเทศไว้ให้มั่นคง

        2.  หลักความปลอดภัย จะรักษาความปลอดภัยในประเทศ ให้การประทุษร้ายต่อกันลดน้อยลงให้มาก และสร้างความสามัคคีของคนในชาติ

        3.  หลักเศรษฐกิจ จะบำรุงความสุขสมบูรณ์ในทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลใหม่จะหางานให้ราษฎรทุกคนทำ จะวางโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก

        4.  หลักเสมอภาค จะให้ราษฎรมีสิทธิเสมอหน้ากัน ไม่ให้ผู้ใดมีสิทธิเหนือผู้อื่น

        5.  หลักเสรีภาพ จะให้ราษฎรมีอิสระที่จะใช้สิทธิ ผู้ใดจะบังคับมิได้

        6.  หลักการศึกษา  จะให้การศึกษาแก่ราษฎรอย่างทั่วถึง

         อย่างไรก็ตาม เบื้องหลัง หลัก 6 ประการของคณะราษฎรนั้น มีแนวคิดหรืออุดมคติที่คณะราษฎรได้ประชุมปรึกษาหารือซึ่งได้ข้อสรุปร่วมกันซึ่งมีนัยสำคัญแฝงอยู่ แต่มิได้แถลงให้ประชาชนทราบ มีใจความสำคัญคือ ต้องมีพระเจ้าแผ่นดินตลอดไป ต้องทำเพื่อประชาธิปไตย ต้องเคารพความเห็นซึ่งกันและกัน ต้องมีความเห็นอันเที่ยงตรง  ต้องทำเพื่อมุ่งจรรโลงประเทศให้ก้าวหน้า ต้องไม่ทรยศต่อประเทศชาติ ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ต้องไม่เย่อหยิ่งลืมตัว ต้องมีความประพฤติดี และต้องรักษาหน้าที่โดยเด็ดขาดเที่ยงตรง[4]

 

การนำมาปรับใช้เพื่อปฏิรูปประเทศของคณะราษฎร[5]

        หลังจากที่คณะราษฎรได้ประกาศหลัก 6 ประการ เพื่อปรับใช้เป็นแนวทางในการปฏิรูปประเทศ ทำให้หน้าประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองไทยในช่วงนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปหลายด้าน คือ

            1.    ด้านอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน โดยกำหนดให้ประชาชนมีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร โดยสภาผู้แทน    ราษฎรสามารถออกกฎหมายได้ เป็นต้น

        2.  ด้านเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยกำหนดและส่งเสริมให้ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้งและให้ประชาชนตั้งพรรคการเมืองได้เป็นครั้งแรก

        3.  ด้านวางรากฐานในเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค มีการเผยแพร่อุดมการณ์ประชาธิปไตยแก่ประชาชนอย่างกว้างขวาง เช่น สร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กำหนดให้มีพานวางรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประชาชนทำความเคารพ ให้มีการท่องรัฐธรรมนูญในโรงเรียน ส่งเสริมการศึกษาแก่ประชาชนในวงกว้างซึ่งแต่เดิมการศึกษามักกระจุกแต่ในชนชั้นสูง โดยมีการตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมืองขึ้น

        4.  ด้านเศรษฐกิจ มีกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการยกเลิกภาษีอากรที่เก็บจากชาวไร่ชาวนา เช่นยกเลิกภาษีเกลือ ภาษีอากรสวน ภาษีต้นตาลโตนด ลดภาษีเก็บเงินอากรสวนใหญ่ ส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์ มีการยกเลิกสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับต่างประเทศ เป็นต้น

 

หนังสือแนะนำให้อ่านต่อ  

ณรงค์ นุ่นทอง. พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับการพัฒนาการเมืองไปสู่ระบบประชาธิป'ไตย'.

        เอกสารวิชาการส่วนบุคคล. สถาบันพระปกเกล้า, 2543.

อาทร อยู่สมบูรณ์. คณะราษฎร์กับกระบวนการสร้างประชาธิปไตย. วิทยานิพนธ์คณะรัฐศาสตร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2541.

 

บรรณานุกรม

เกียรติชัย พงษ์พาณิชย์. 'ปฏิวัติ '2475. พระนคร : บริษัทผดุงพิทยา, 2514.

อาทร อยู่สมบูรณ์. “คณะราษฎร์กับกระบวนการสร้างประชาธิปไตย”. วิทยานิพนธ์คณะรัฐศาสตร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2541.

ประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ครูอังคณา ณ พิกุล. การเมืองการปกครองสมัยรัตนโกสินทร์ยุคหลัง          เปลี่ยนแปลงการปกครอง (ออนไลน์). http://www.thaigoodview.com/library/contest2553           /type2/social03/28/02con03.htm

มูลนิธิวิกิพีเดีย. 2557. หลัก 6 ประการของคณะราษฎร์ (ออนไลน์). วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี                http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81_6_%         E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8     %82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E          0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%A3

 

อ้างอิง 


          [1] มูลนิธิวิกิพีเดีย. 2557. หลัก 6 ประการของคณะราษฎร์ (ออนไลน์). วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81_6_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%A3 (สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2557)

          [2] ประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ครูอังคณา ณ พิกุล. การเมืองการปกครองสมัยรัตนโกสินทร์ยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง (ออนไลน์). http://www.thaigoodview.com/library/contest2553 /type2/social03/28/02con03.htm (สืบค้นเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2557)

               [3] อาทร อยู่สมบูรณ์. คณะราษฎร์กับกระบวนการสร้างประชาธิปไตย. วิทยานิพนธ์คณะรัฐศาสตร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2541. หน้า 55 - 56

               [4] เกียรติชัย พงษ์พาณิชย์. ปฏิวัติ '2475'. พระนคร : บริษัทผดุงพิทยา, 2514. หน้า 109 – 110.

               [5] อ้างแล้วในเชิงอรรถที่ 3. หน้า 88 – 100.